เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 25 ก.พ. ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ BTSC และนายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ร่วมกันทดสอบการใช้คลื่นความถี่โทรคมนาคมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้โดยสารรถไฟฟ้า หลังจากมีการประกาศเปิดให้บริการ 5G
นายสรพงศ์กล่าวว่า กรมการขนส่งทางราง ขร.ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งลงพื้นที่ทดสอบคลื่นความถี่ที่สถานี รถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม โดยความร่วมมือระหว่างบริษัท AIS และบีทีเอส เพื่อตรวจสอบปัญหา และอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น พร้อมหาวิธีป้องกันการเกิดผลกระทบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในเสถียรภาพของระบบการเดินรถไฟฟ้า ซึ่งผลการทดสอบในเบื้องต้นยังไม่พบผลกระทบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ได้ขอให้ทั้งสองหน่วยงาน ดำเนินการทดสอบผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และให้บีทีเอสติดตั้งอุปกรณ์กรองคลื่นรบกวนตลอดแนวเส้นทางรถไฟฟ้าให้ครบภายใน 5 เดือน
ขณะที่นายสุรพงษ์เปิดเผยว่า บีทีเอสได้ ศึกษาและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนกัน ระหว่างคลื่นความถี่ที่ใช้ในระบบโทรคมนาคมกับคลื่นที่ใช้ในการเดินรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อ กสทช.ประกาศแผนในการนำ คลื่นความถี่ 2500-2600 MHz มาประมูลเพื่อ ใช้ในกิจการ 5G บีทีเอสจึงได้เข้าหารือกับทาง กสทช. กทม. กรมการขนส่งทางราง โดยเฉพาะทางเอไอเอส ที่ชนะการประมูลคลื่น 2500-2600 MHz ซึ่งเป็นคลื่นที่อยู่ใกล้ชิดกับคลื่นวิทยุ 2400-2500 MHz ที่ระบบอาณัติสัญญาณของรถไฟฟ้า บีทีเอสใช้อยู่ เพื่อทดสอบและป้องกันปัญหาเรื่องคลื่นรบกวน โดยได้มีมาตรการร่วมกันเพื่อไม่ให้ เกิดผลกระทบกับการเดินรถ แม้ว่าการทดสอบเบื้องต้นจะไม่พบปัญหาใดๆ แต่เราจะยังคงร่วมมือกันเดินหน้าทดสอบอย่างต่อเนื่องในทุกช่วงเวลา และทุกเส้นทางเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ใช้บริการของทั้ง 2 องค์กร ขณะเดียวกัน บีทีเอสได้ลงทุนติดตั้งระบบป้องกัน หรือตัวกรองคลื่นเพิ่มเติม ในกรณีที่พบการรบกวนแฝงจากคลื่นความถี่ต่างๆ เพื่อให้การเดินรถไม่เกิดปัญหาในระยะยาว ซึ่งได้ติดตั้งไปแล้ว 700 เครื่อง และอยู่ระหว่างจัดซื้อเพิ่มเติม
...
ด้านนายวสิษฐ์กล่าวว่า เอไอเอสได้ร่วมมือกับบีทีเอสทดสอบมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 ก่อนเปิดประมูลและเข้มข้นยิ่งขึ้นหลังจากประมูลเรียบร้อยในทุกเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งอยู่ในพื้นที่ขยายเครือข่ายทั้ง 4G/5G โดยการทดสอบในเบื้องต้นยังไม่พบผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เราจะยังคงเดินหน้าทดสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้โดยสารและสร้างความเชื่อมั่นว่าประชาชนจะได้ใช้งานระบบสื่อสารและระบบโดยสารที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน.