‘โชเฟอร์’ ตาย ก่อนหมดสติ บอกหน้ามืด ผู้โดยสารเจ็บ

โชเฟอร์แท็กซี่โรคหัวใจกำเริบกะทันหันวูบหมดสติ ขณะขับรถบนทางด่วนโทลล์เวย์บึ่งไปส่งผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ รถเสียหลักพุ่งชนขอบทางหมุนไถลพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ที่หน้าด่านเก็บเงินค่าผ่านทางดินแดง คนขับดับคาพวงมาลัยส่วนผู้โดยสารสาวบาดเจ็บเล็กน้อย เคราะห์ดีไม่ไถลตกจากทางยกระดับ สารวัตรเวรเผย คนเจ็บให้การว่า ระหว่างทางคนขับแท็กซี่บอกว่ามีอาการหน้ามืดจะวูบเพราะมีโรคประจำตัว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบเกิดอุบัติเหตุเองไม่มีคู่กรณีแต่อย่างใด

รถแท็กซี่คว่ำบนทางด่วนโชเฟอร์เสียชีวิต และผู้โดยสารสาวบาดเจ็บ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ม.ค. พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ก้อนแพง รอง ผกก. (สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1 กก.2 บก.จร. รับแจ้งรถแท็กซี่พลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดินแดง 1 ฝั่งขาเข้า แขวงและเขตดินแดง กทม. ไปสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าด่านเก็บเงินสดช่องที่ 3 ติดกับช่องด่านเก็บเงินอีซี่พาสและเอ็มพาส พบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า โคโรล่า สีเขียวคาดเหลือง หมายเลขทะเบียน 1 มค 2070 กรุงเทพมหานคร สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่บนขอบฟุตปาทระหว่างช่องเก็บเงินทั้งสองช่อง สภาพหลังคายุบ กระจกมองข้างหัก ที่นั่งคนขับพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายมานัส มาประดิษฐ์ อายุ 58 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 7 ซอยบางแวก 38 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนยาว สวมกางเกงขายาวสีดำ จากการตรวจสอบสภาพศพไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด และมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 1 ราย นำส่ง รพ.ปิยะเวท ทราบชื่อ น.ส.ธัญญาชนก ไชยรัตน์ อายุ 23 ปี บาดเจ็บที่บริเวณศีรษะเล็กน้อยอาการปลอดภัย เคราะห์ดีที่รถไม่ตกจากบนทางยกระดับ

...

ด้าน พ.ต.ท.พิเชษฐ์กล่าวว่า สอบปากคำผู้บาดเจ็บ น.ส.ธัญญาชนกให้การว่า ก่อนเกิดเหตุโดยสารรถแท็กซี่จะไปสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ระหว่างทางคนขับแท็กซี่บอกว่า มีอาการคล้ายจะวูบ หน้ามืด เพราะมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ ขณะขับมาใกล้ถึงด่านเก็บเงิน จู่ๆคนขับเกิดวูบหมดสติไป รถเกิดเสียหลักชนกับขอบทางหมุนล้อเสยกับขอบฟุตปาทกั้นระหว่างทางเข้าช่องเก็บเงินจนรถพลิกคว่ำ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า รถแท็กซี่คันเกิดเหตุขับมาตามเส้นทางบนทางด่วนโทลล์เวย์มุ่งหน้าดินแดงแล้วรถเสียหลักไปเฉี่ยวชนขอบทาง ก่อนไถลไปคว่ำหน้าอยู่ที่หน้าด่านเก็บเงินโดยไม่มีคู่กรณีแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จะสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีกครั้ง นำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง และประสานญาติของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อสรุปคดีต่อไป