3 โหรหญิง “พ.พาทินี-ฟองสนาน-วิสาระ” ผ่าดวงเมืองปี 2563 เห็นตรงกันเข้าขั้นวิกฤติการเมืองขัดแย้งหนัก จนคนหมดความอดทน อยู่ในเกณฑ์ปฏิวัติใหญ่ รัฐบาลอ่วมส่อแววยุบสภา แต่ผู้นำอาจยังเป็นหน้าเดิม เพราะดวง “ประยุทธ์” มีพลังลึกลับคอยหนุนส่ง ส่วนเศรษฐกิจการเงินส่อหนัก แนะคนไทยรัดเข็มขัด อย่าเป็นสิงห์คะนองหนี้ แต่กลุ่มอบายมุขเหล้า สลาก หวย ของปลอมจะรุ่ง พร้อมเตือนภัยพิบัติใหญ่ทั้งแล้งจัด น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว อุบัติเหตุตายหมู่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงแบบลอกคราบใหม่ประเทศไทย
เป็นประจำทุกสิ้นปีที่บรรดานักโหราศาสตร์ชื่อดังจะออกมาทำนายทายทักดวงเมืองปีใหม่ โดยในปี 2563 โหรหญิงชื่อดัง 3 คน ได้ผ่าดวงเมืองไทย เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. เริ่มจาก “หมอไก่” น.ส.พาทินี พิพัฒน์กิจโชติ หรือ “พ.พาทินี” หมอดูจากคอลัมน์ดวงดาวของท่านใน นสพ.ไทยรัฐ กล่าวถึงดวงเมืองในปี 2563 ว่า จากการนำหลักโหราศาสตร์ไทย พม่าและจีน มารวมกันดูดวงเมืองของไทยในปี 2563 ปรากฏว่ามีผลไปในทิศทางเดียวกัน โดยศาสตร์ของจีนที่ใช้ดูจะเรียกว่าดาว 5 เป็นดาวมหาวิบัติ ในทุกปีจะมีการโคจรที่เรียกว่าระบบดาวเหิน ในปี 2563 ดาว 5 โคจรเข้ามาตรงภูมิที่เป็นประเทศไทยพอดี ทำให้บ้านเมืองจะยังเกิดการวิวาท แตกแยก และสถานการณ์จะอยู่ในช่วงสุกงอมเต็มที่ เหมือนลูกระเบิดที่พร้อมจะระเบิดออกมาเมื่อถูกกระแทก
พ.พาทินีกล่าวว่า เมื่อดูตามหลักโหราศาสตร์ไทย ดาวเสาร์กับดาวพฤหัสฯ จะโคจรคู่คี่กันมาตลอด ดาวสองดวงนี้เป็นดาวคู่พระคู่โจร เป็นคู่ศัตรู เปรียบเหมือนคนมีความสามารถเหมือนกัน แต่อยู่คนละฝ่ายเลยทะเลาะกัน และดาวคู่ศัตรูจะย้ายราศีในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นเหมือนการจองเวรกันไม่เลิก ทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้น การเมืองไทยจะยังร้อนแรงและวุ่นวาย องค์กรใหญ่ๆ หรือพรรคการเมืองจะขัดแย้งกันเองทั้งภายในและภายนอก
...
“การเมืองค่อนข้างรุนแรง เพราะความอดทนของคนสิ้นสุดลง เป็นเหมือนลูกระเบิดที่รอปะทุ เรื่องม็อบมีอยู่แล้ว แต่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างหรือต้องเปลี่ยนแปลงผู้นำ ให้ระวังตั้งแต่ช่วง ส.ค.-ต.ค.63 จะค่อนข้างหนัก ที่จริงจะยาวไปถึงปลายปี แต่ช่วง 3 เดือนนี้จะสาหัส ประกอบกับดาวอังคาร ที่เดิมทีเป็น เดช หมายถึง อำนาจ บารมี แต่ปีหน้า ดาวอังคารเป็นกาลีจร คนที่เป็นใหญ่เป็นโต รัฐบาล อำนาจจะเสื่อมถอย ประชาชนเสื่อมศรัทธา คนที่เคยฟังจะไม่ฟังคำสั่งอีกแล้ว” พ.พาทินีกล่าว
พ.พาทินีกล่าวอีกว่า เรื่องที่น่ากังวล เป็นเรื่องการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ โหราศาสตร์พม่าและไทยให้คำตอบคล้ายกัน โดยศาสตร์พม่า ดาวเสาร์ ซึ่งหมายถึงโทษ ทุกข์ ปัญหา การรอคอย อุปสรรค โคจรเข้ามาในดวงเมืองทับตัวการเงินพอดี ทำให้การเงินมีปัญหา ประชาชนมีปัญหาเรื่องปากท้อง ขณะที่ศาสตร์ไทย ดาวราหูเข้าภพกดุมภะ หรือเรื่องของการเงินพอดี เข้าเกณฑ์ราหูค้นทรัพย์ ทั้งสองศาสตร์ตรงกัน ยืนยันว่ามีปัญหาแน่นอน จึงอยากแนะนักลงทุน นักเล่นหุ้น หรือคนที่มีงานประจำ แต่อยากออกมาทำกิจการของตัวเอง ปีหน้าไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสมเพราะเป็นปีที่จะมีปัญหาเรื่องการเงินมาก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง สิ่งที่ควรทำมากที่สุด คือการออมเงิน มากกว่าการลงทุน เป็นปีที่ไม่มีความแน่นอน คนที่มีงานทำก็อาจตกงานได้แบบกะทันหัน ปี 2562 ที่ว่าหนัก ปีหน้าจะหนักกว่ามาก
ส่วนเรื่องภัยพิบัติ พ.พาทินีกล่าวว่า ที่ปรากฏในดวงเมืองจะมี 2 เรื่อง ทั้งน้ำท่วมและไฟไหม้ เพราะความสมดุลทางธรรมชาติไม่มีความแน่นอน ปีหน้าจะแล้งมาก น้ำแห้งไปเลย และเมื่อฝนตกน้ำท่วมก็จะท่วมใหญ่ โดยเฉพาะช่วงปลายปี 63 มีโอกาสเกิดน้ำท่วมใหญ่ ดาวเสาร์ธาตุไฟเข้า จะมีไฟไหม้ใหญ่เกิดขึ้น และด้วยความที่ดาวอังคารเป็นกาลี จะทำให้มีอุบัติเหตุความรุนแรงใหญ่ๆ ตายหมู่ ดาวอังคารยังหมายถึงเรื่องอารมณ์ การทะเลาะวิวาท คนจะฆ่ากันด้วยเรื่องไร้สาระ อาจจะเพราะเศรษฐกิจไม่ดี คนอารมณ์เสียเลยทะเลาะกันง่าย โดยรวมปีหน้าเป็นปีที่ควรระมัดระวังเรื่องการใช้ชีวิตมากๆ อย่าประมาท การลงทุนต้องวางแผนให้ดี อย่าลงทุนที่มีความเสี่ยงมากๆ ต้องรัดเข็มขัด
ด้าน “โหรฟองสนาน” ฟองสนาน จามรจันทร์ นักโหราศาสตร์ชื่อดัง กล่าวว่า ดวงเมืองรัตนโกสินทร์ ถือกำเนิดเมื่อ 21 เม.ย.2325 ตรงกับวันอาทิตย์ ผ่านเรื่องต่างๆมากมายทั้งร้อนและหนาว แต่ก็อยู่รอดปลอดภัยมานาน 237 ปีเต็ม ในวันที่ 21 เม.ย.2563 อายุจะเต็ม 238 ปี ย่าง 239 ปี ตลอดปี 2563 จะยังเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยู ทั้งสถานะ ภาระหน้าที่บุคคลสำคัญ ผู้มียศศักดิ์ ผู้นำในองค์กร จะเกิดแบบกะทันหันเกินคาดคิด รอบแรกช่วง 15 มิ.ย.-16 ก.ค. รอบสอง 2-29 ก.ย. จะมีฝ่ายหญิงบางคนโดดเด่นขึ้นมา รอบสาม 18 พ.ย.-13 ธ.ค. สถานะฝ่ายหญิงคนสำคัญในเมืองจะกระทบกระเทือนจนน่าประหลาดใจ และรอบที่สี่ 16 ธ.ค.63-14 ม.ค.64
โหรฟองสนานกล่าวว่า ในปี 2563 จะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นให้แปลกใจได้ตลอดเวลา ทางการเมืองจะยังถูกเขย่าให้เปลี่ยนแปลง ถ้าฝืนกระแสจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เป็นผลจากมฤตยู เจ้าของการปฏิวัติใหญ่ภัยอาเพศ จรเข้าราศีเมษ ทับลัคนาดวงเมืองที่สถิตราศีเมษ ทับพระอาทิตย์ดวงเมือง ซึ่งหมายถึงการเมือง บุคคลสำคัญในเมืองและจิตใจของคนไทย ตัวการของการเปลี่ยนแปลงใหญ่นี้เกิดจาก จิตใจของประชาชนที่พลิกผันและเปลี่ยนแปลงแบบทันสมัย หรือหากจะรุ่นเก่าก็ย้อนยุคแบบแปลกประหลาด มฤตยู เป็นเรื่องของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่ เป็นเรื่องของการสร้างสิ่งใหม่ทำลายสิ่งเก่า โดยมฤตยูจะอยู่ราศีเมษไปจนถึง ก.ค.2565 เมื่อถึงวันนั้นหากเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร อาจจะถามตัวเองว่าเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จะคล้ายๆเงาะถอดรูปหรือลอกคราบใหม่ประเทศไทยไปสู่สิ่งที่ล้ำสมัย
“ตั้งแต่ต้นปีไปจนถึง 1 มี.ค. จะเกิดการตรึงกำลังทางการเมืองทั้งวิ่งไล่ลุง วิ่งสนับสนุนลุง ไม่มีใครยอมใคร 1 มี.ค.ไปจนถึงสิ้นปีรัฐบาลรับภาระหนักมาก เพราะพระเสาร์จรตัวแทนรัฐบาลเดินอยู่ในราศีมังกรภพที่สิบหมายถึงการแบกภาระบ้านเมืองหนักหน่วง จะเถลือกไถลไปราวใกล้สิ้นปีจะออกอาการ ขณะที่ฝ่ายค้านก็มีเคราะห์ เนื่องจากพระเสาร์จรที่ราศีมังกรเล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิมดวงเมืองที่เป็นตัวแทนฝ่ายค้านที่สถิตอยู่ในราศีกรกฎ คาดว่าจะมีการปรับ ครม.ประมาณวันที่ 15 พ.ค.ก่อนหน้าหรือหลัง 7 วัน เกิดจากปรากฏการณ์พระเสาร์จรเดินถอยหลังในราศีมังกร และกลาง พ.ย.จะส่อให้เห็นแววยุบสภาเมื่อสถานการณ์สุกงอม คาดว่าอาจมีการยุบสภาหรือมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรัฐบาลช่วงปลาย ธ.ค.ไปถึงปลาย ก.พ.2564 หรืออาจจะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ” โหรหญิงชื่อดังกล่าว
...
โหรฟองสนานกล่าวอีกว่า เคราะห์ใหญ่ของเมืองจะเริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค.ถึงปลายปี ยาวไปถึง 1 มี.ค.2566 จะเกิดกับประชาชน และหญิงงาม ดาราหรือนางงาม นักร้องหรือศิลปิน หรือสุภาพสตรีระดับนางพระยา ข้าราชการหญิงตำแหน่งสูง แก้เคล็ดเสริมดวงชะตาเมืองได้ด้วยการทำสวนป่าหรือปลูกต้นไม้ใหญ่เสริมความยั่งยืน เพื่อความร่มเย็นของแผ่นดิน และจะเกิดอุบัติเหตุใหญ่เกี่ยวกับอากาศ หรือทางอากาศ ก๊าซ การทะเลาะเบาะแว้งในเมือง แบบทะเลาะกันบนท้องถนน ไม่มีใครยอมใคร จะแรงและถี่มากตั้งแต่ 1 มี.ค.ไปถึงสิ้นปี เพราะเกณฑ์ร้ายทางโหรโดดเด่นมากกว่าปกติ พระเสาร์จร 7 เป็นสิบมีโฉลก บอกให้เกรงไฟ ร่วมกับเกณฑ์พระอังคารดาวประจำชีพของเมืองและตัวแทนอุบัติเหตุ ผ่าตัด เลือด การทะเลาะ เบาะแว้ง อาวุธ ฯลฯ เป็นกาลกิณีจรตั้งแต่วันคล้ายวันเกิดดวงเมือง 21 เม.ย.ไปถึงสิ้นปี จึงต้องระวังไฟไหม้ อุบัติเหตุระเบิดทั้งทางบก ดิน น้ำ อากาศ
ด้านเศรษฐกิจ ปลายปี 2563 มีเกณฑ์ชะตาเมืองแตกเพราะราหูค้นทรัพย์รออยู่ โดยลีลาของอาการจะปรากฏ ตั้งแต่ 21 เม.ย.เป็นต้นไปเป็นเวลา 1 ปี พระราหูเจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา เป็นศรีจรตามระบบทักษา ตั้งแต่ 10 ก.ย.เป็นต้นไป จะเกิดปรากฏการณ์เสี่ยงหรือสร้างหนี้ขนาดใหญ่ของประชาชน และรัฐบาล เป็นปรากฏการณ์จันทร์ล่าราหู คือ พระราหูจรเข้าไปเดินในราศีพฤษภโยคหลังพระจันทร์ดวงเดิมเป็นคู่คะนองหนี้ ประชาชนก่อหนี้ส่วนบุคคลและรัฐบาลก่อหนี้ของแผ่นดินซ้อนด้วย และจะเกิดปรากฏการณ์ราหูค้นทรัพย์แผ่นดินเกิดขึ้นซ้อนเข้ามาอีก เพราะพระราหูจร 8 เข้าไปเดินในราศีพฤษภภพที่สองดวงเมือง ทำให้ดวงชะตาเมืองแตกเรื่องเงิน อาการนี้จะปรากฏให้ปวดหัวและต้องแก้ไขกันหนักตั้งแต่ 21 เม.ย.2564 เป็นต้นไป ให้ระวังการเก็งกำไรเกินขอบเขต อย่าเป็นสิงห์คะนองหนี้
...
โหรฟองสนานกล่าวด้วยว่า ในด้านดีจะเป็นปีที่เกิดปรากฏการณ์โชคเทวฤทธิ์ เทวดาจะให้โชคระหว่าง 1 มี.ค. ถึงกลางเดือน ก.ค.และช่วงวันที่ 21 เม.ย.2563 จนถึง 21 เม.ย.2564 พระราหูตัวแทนตำรวจเป็นศรีหรือสิริมงคลจร เหมาะกับการปฏิรูปวงการตำรวจให้ดีขึ้น ส่วนทหารพระอังคารเป็นกาลกิณีจร ไม่ควรทำตัวโดดเด่นหรือล่อเป้า ต้องอยู่แบบไร้แสงหรือปิดทองหลังพระ ด้านบันเทิง เหล้า สลาก หวย การเก็งกำไร การบิน ปุ๋ยหมัก อาหารหมักดอง รายการโทรทัศน์แบบประโลมโลก เกมออนไลน์ ของปลอม เช่น ทองปลอม หรือผมปลอม ดีมากกว่าร้าย ส่วนน้ำ ข้าว มีเกณฑ์ร้ายมากกว่าดี รัฐบาลควรวางแผนช่วยเหลือชาวนาไว้ล่วงหน้า น้ำช่วงฤดูฝนพอได้แบบกลางๆ จากร่องฝน พายุปีนี้มีเกณฑ์เข้าแบบแปลกๆ ไม่น่าจะต่ำกว่าสองลูก ถ้าจะมีน้ำท่วม ก็เป็นพื้นที่ๆ ไป และตลอดทั้งปีมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหว
ขณะที่วิสาระ ประนมกรณ์ นักพยากรณ์ตัวเลขชื่อดัง กล่าวถึงการถอดรหัสชีวิตบุคคลสำคัญในรัฐบาลปี 2563 ว่า จะเป็นปีที่นักการเมืองขัดแย้งหนัก และจะถูกกำจัดรายวัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เกิด 21 มี.ค.2497 อายุ 66 ย่าง 67 ปี จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เพราะรหัสชีวิตติดดาว ยังมีอำนาจวาสนามีคนสนับสนุน สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ถึงจะดูเป็นคนอาฆาตแค้นศัตรูจนเกือบจะดูเป็นคนอำมหิต แต่ธาตุแท้สงสารคนง่าย ช่วงเดือน เม.ย.จะสะเทือนใจในอาชีพ จะเจอพวกสับปลับพาลชนเวียนวนทำให้รำคาญใจ แต่อาศัยมีภูมิคุ้มกันสูง จะผ่านไปได้ด้วยดี ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เกิดวันที่ 11 ส.ค.2488 อายุ 75 ปี ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.จะสับสนเสียความรู้สึก เกือบจะเพลี่ยงพล้ำไปตามแผนชั่ว จะมีการก่อเหตุ ตีรวน ใส่ร้ายป้ายสี สร้างกระแสต่อรองรัฐบาล หากใช้ความเด็ดขาดจะมีอำนาจต่อรองสูง เหตุการณ์จะไม่บานปลาย ฝ่ายค้านที่ไม่สร้างสรรค์จะจนมุม
...
วิสาระกล่าวถึงฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เกิด 25 พ.ย.2521 อายุ 42 ปี รหัสชีวิตติดลบจะพบกับความขัดข้องที่เข้าไปเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไปทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเองกลายเป็นความจุ้นจ้านล้ำเส้น ภัยจะมาถึงตัว ช่วงเดือน ก.พ.จะเสียรู้ผู้ใหญ่ งานที่รับผิดชอบจะล้มเหลว เพราะอยู่กับอารมณ์ความลุ่มหลงแบบไม่ลืมหูลืมตา ช่วง เม.ย.จะเครียดหนัก สูญเสียความเชื่อมั่นจนคิดจะใช้ความรุนแรง นำตัวเองก้าวเข้าไปสู่ประตูของทูตมรณะโดยไม่รู้ตัว ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการ อนค.เกิด 23 ต.ค.2522 อายุ 41 ปี เกิดข้างขึ้นอยู่กับอารมณ์ กังวล ปนเศร้า เพราะคำพูดที่ท้าทายและบิดเบือน เป็นตราบาป อยู่กับอารมณ์หดหู่หัวใจสลายเพราะพ่ายแพ้ จะอยู่กับอารมณ์ที่น่าเบื่อหน่าย อดีตที่เคยทำจะตามมาหลอกหลอน ให้กินนอนไม่มีความสุข ขณะที่ช่อ-พรรณิการ์ วานิช โฆษก อนค. เกิด 28 ม.ค.2531 อายุย่าง 33 ปี เชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป ไม่ฟังคนอื่นจะผิดพลาดง่าย นึกขึ้นได้ก็สายเสียแล้ว มีบทสรุปน่าเวทนา เดือน ม.ค.จะสะเทือนใจที่ถูกทรยศหักหลัง จะพังเพราะปาก คนที่เคยรักจะหันหลังให้ ช่วง เม.ย.จะอยู่กับตัวเลขมหันตภัย
นักพยากรณ์ตัวเลขชื่อดังยังกล่าวถึงสถานการณ์ในปี 2563 ด้วยว่าจากการถอดรหัสตัวเลข เศรษฐกิจ การเมือง การค้า ที่น่าเป็นห่วง ทั้งในและนอกประเทศจะเดินหน้าต่อไป ไม่ได้แย่อย่างที่ใครๆคิด ประชาชน คนยากจนยังต้องพึ่งพารัฐบาล สิ่งที่ต้องระวังคือภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมเหมือนปี 2554 เพราะปี 2563 รวมกันได้เลข 16 เหมือนกัน 16 คือ เงามืด ทำให้ผู้คนซึมเศร้า