'บัตรแรบบิท' จับมือ 'สมาร์ทบัส' ให้บริการรถร่วมบริการ ขสมก. เปิดตัวระบบการชำระค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิท เหมือนใช้ในรถไฟฟ้าบีทีเอส นำร่องระบบการชำระเงินตามมาตรฐานสากลในรถโดยสารประจำทางสาธารณะในกรุงเทพเป็นครั้งแรก คาดปี 2563 จะสามารถติดตั้งระบบในรถสมาร์ทบัสรวมกว่า 2,000 คัน


นางสาวรัชนี แสนศิลป์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (บีเอสเอส) “ผู้ให้บริการบัตรแรบบิท (Rabbit Card) เปิดเผยว่า บัตรแรบบิทเริ่มให้บริการกับประชาชน ตั้งแต่ปี 2555 โดยมีแนวคิดเริ่มต้นคือ ต้องการให้บัตรแรบบิท เป็นบัตรสมาร์ทการ์ดสำหรับคนไทยที่ใช้สำหรับชำระค่าโดยสารขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบ หรือ ตั๋วร่วม (common ticket) และใช้ชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ได้ด้วย โดยแนวคิดนี้ สอดรับกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นสังคมไร้เงินสดและต้องการให้มีบัตรใบเดียวที่สามารถใช้ระค่าโดยสารในระบบขนส่งได้ทุกประเภท โดยตลอด 7 ปีที่บัตรแรบบิทให้บริการ ได้มีการพัฒนาบริการเพื่อในสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการและชีวิตคนเมืองที่เปลี่ยนไป บนเงื่อนไขที่ต้องรักษามาตรฐานการชำระค่าโดยสารในระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะต้องมีความถูกต้อง ปลอดภัยและรวดเร็ว

...



นางสาวรัชนี กล่าวด้วยว่า เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 62 ที่ผ่านมา บัตรแรบบิทได้ร่วมมือกับบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ผู้ประกอบการให้บริการรถร่วมบริการ ขสมก. เปิดตัวระบบการชำระค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิทโดยใช้มาตรฐานเดียวกับ “ระบบแรบบิท” ที่ใช้ในรถไฟฟ้าบีทีเอส มาทดลองใช้กับรถสมาร์ทบัสสาย 104 และ 150 ซึ่งถือว่าเป็นการนำระบบการชำระเงินตามมาตรฐานสากลมาใช้ในรถโดยสารประจำทางสาธารณะในกรุงเทพเป็นครั้งแรก และภายในไตรมาสแรกของปี 2563 จะมีการติดตั้งเพิ่มในรถสมาร์ทบัสอีก 5 สาย โดยคาดว่าสิ้นปี 2563 จะสามารถติดตั้งระบบการชำระเงินด้วยบัตรแรบบิทนี้ได้อย่างสมบูรณ์ในรถสมาร์ทบัสสายอื่นๆ รวมกว่า 2,000 คัน

จากการขยายเครือข่ายการชำระค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิทในระบบขนส่งสาธารณะนี้ คาดว่าในปี 2563 จำนวนผู้ใช้บัตรแรบบิทจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 8 แสนถึง 1ล้านคนต่อวัน ในขณะเดียวกันการเพิ่มเส้นทางการให้บริการของรถไฟฟ้าบีทีเอส ในระหว่างปี 2563-2564 ระยะทางจะเพิ่มขึ้นจาก 50 กม. เป็น 170 กม. ซึ่งเส้นทางที่เพิ่มขึ้น คือ สายสีเขียวเหนือ (หมอชิต – คูคต) สายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) และสายสีชมพู (แคราย – มีนบุรี) ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ใช้งานบัตรแรบบิทเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 1 ล้านคนต่อวัน” นางสาวรัชนีกล่าว