หนุ่มวัย 33 ปี เจ้าของบริษัทรับเหมาแต่งภายใน บ่นให้ญาติฟังเศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีงาน แต่หนี้สินเพิ่มพูน สุดท้ายตัดสินใจจบชีวิต ส่งแชตไปลาพ่อแม่ บอก ผมต้องเดินทางแล้ว เปิดแอร์ปิดห้องรมควันดับ    

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ร.ต.อ.สมประสงค์ สายอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตรมควันตัวเองตายในบ้านพักเลขที่ 8/27 หมู่บ้านโนวาอาร์ท ถนนประชาอุทิศ ซอย 131 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ชั้นล่างทำเป็นออฟฟิศชื่อ บริษัท เอ.พี.ที.ดีไซน์แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด รับเหมาตกแต่งภายใน จากการตรวจสอบบนห้องนอนชั้น 2 ซึ่งเปิดแอร์เย็นฉ่ำ พบศพ นายอภิเทพ แสงเมธารัตน์ อายุ 33 ปี เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของบริษัท ใช้เตาอั้งโล่ติดไฟ รมควันตัวเองเสียชีวิตบนที่นอนปิกนิก สภาพตะแคงขวาคว่ำหน้า ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำลายจุด มีผ้าห่มลายสกอตคลุมทับร่าง 1 ผืน โดยร่างเริ่มบวมขึ้นอืด มีทั้งเลือดและน้ำหนองไหลจากศพส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณบ้าน แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน

ส่วนสภาพภายในห้องที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบโทรศัพท์มือถือไม่ได้เปิดเครื่องวางอยู่ใกล้ศพผู้ตาย 1 เครื่อง และเตาอั้งโล่ ซึ่งไฟมอดดับไปแล้ววางอยู่ตรงมุมห้อง 1 ใบ ส่วนตามขอบประตูและขอบหน้าต่างทุกบานภายในห้อง ถูกปิดไว้ด้วยเทปกาวเพื่อป้องกันอากาศเข้าและออกไว้อย่างมิดชิด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นายทวีชัย แสงเมธารัตน์ อายุ 59 ปี บิดาผู้ตาย ให้การว่า บ้านหลังนี้มีลูกชายพักเพียงลำพัง โดยก่อนหน้านี้ลูกชายก็เคยมีครอบครัว แต่เลิกรากับภรรยามาได้ 2 ปีแล้ว ล่าสุดเมื่อกลางดึกวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ลูกชายส่งข้อความทางไลน์มาหาในทำนองว่า รักพ่อกับแม่ ให้พ่อแม่ดูแลรักษาสุขภาพ โดยบอกอีกว่า จำเป็นจะต้องเดินทางและสักวันจะได้มาพบกัน ตอนนั้นตนไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าลูกจะไปเที่ยวต่างประเทศ กระทั่งไม่สามารถติดต่อได้หลายวันจึงชักชวนญาติๆ เดินทางมาหาและแจ้งตำรวจสายตรวจเข้าร่วมตรวจสอบ

...

ด้าน นายทวีวัฒน์ แสงเมธารัตน์ อายุ 57 ปี น้องชาย นายทวีชัย ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายมีลูกชายกับอดีตภรรยา 2 คน คนแรกอายุ 14 ปี ส่วนคนสุดท้องอายุ 6 ปี ปกติผู้ตายจะไปรับลูกๆ ที่บ้านอดีตภรรยาย่านสุขสวัสดิ์ มานอนด้วยทุกวันหยุดช่วงเสาร์อาทิตย์ แต่วันหยุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลับหายหน้าหนำซ้ำยังติดต่อไม่ได้ กระทั่งญาติพากันมาพบศพ ส่วนสาเหตุคาดว่าคงเกิดจากความเครียด เพราะก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยบ่นให้ลูกชายตนฟังว่า เครียดงานไม่ค่อยมี และมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างที่เป็นอยู่

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนจะมอบศพให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนให้ญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล.