สาวลาว 19 โยนลูกทิ้งดาดฟ้าโรงงาน อ้างคลอดแล้วตาย สับสนตกใจจึงโยนลงมา หวังทิ้งลำรางแต่ค้างหลังคา ด้าน ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ รอผลชันสูตรก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดี

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 พ.ย.62 ร.ต.ท.วณัฐพงศ์ สุขชื่น รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งพบศพทารกอยู่บนกันสาด ด้านหลังโรงงานเย็บผ้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่ง เปิดกิจการเป็นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า จากการตรวจสอบบนกันสาดชั้น 2 ด้านหลังโรงงานซึ่งติดกับลำรางระบายน้ำ พบศพทารกเพศหญิง อายุประมาณ 1-2 วัน ผิวขาว สภาพมีถุงพลาสติกครอบศีรษะ นอนตะแคงซ้ายเปลือยกาย ยังมีสายรกติด อยู่บนหลังคากันสาด แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 24 ชั่วโมง

จากการสอบสวนลูกจ้างในโรงงาน เบื้องต้น น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี สัญชาติลาว ยอมรับเป็นแม่เด็ก โดยให้การว่า ทำงานและพักอยู่บนดาดฟ้าของอาคารดังกล่าว ส่วนศพเด็กที่พบนั้นเป็นลูกสาวของตนเอง ที่ตั้งครรภ์อย่างไม่รู้ตัว และเลิกรากับแฟนหนุ่มมานานแล้ว กระทั่งอายุครรภ์ครบ 9 เดือน และเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (31 ต.ค.) รู้สึกว่าลูกไหลออกจากช่องคลอดมาเองและไม่มีลมหายใจ ด้วยความสับสนกับความตกใจจึงตัดสายรกเองก่อนใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะ แล้วโยนศพลูกลงมาจากดาดฟ้าหวังจะทิ้งลงลำรางระบายน้ำ แต่ศพกลับค้างอยู่บนกันสาดทำให้มีคนเห็นและเเจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ด้าน พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ เปิดเผยว่า ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ น.ส.เอ เท่าใดนัก จากการสอบสวนเพื่อนๆ ในโรงงานที่พักและทำงานอยู่ด้วยกัน ไม่มีใครทราบว่าเจ้าตัวตั้งครรภ์เพราะ น.ส.เอ ตัวเล็กมาก ประกอบกับช่วงเวลาที่เด็กคลอดออกมานั้น ก็ไม่มีผู้ใดรู้เห็น โดยหลังจากนี้จะนำตัว น.ส.เอ ไปตรวจร่างกายและสอบปากคำทำประวัติเอาไว้ก่อน เพื่อรอผลชันสูตรจากแพทย์ว่า ทารกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือถูกทำให้เสียชีวิตหลังคลอดออกมา จากนั้นจึงจะแจ้งข้อหาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.เอ ต่อไป

...