ศักดิ์สยามเร่งสรุปแล้ว ให้แก้กฎหมายรถบรรทุกผ่านกรุง เป็นเที่ยงคืนถึงตี 4
“ศักดิ์สยาม” ปิ๊งนโยบายเอาใจขาซิ่งไฟเขียวรถวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. บนถนน 4 เลนทั่วประเทศ พร้อมปรับเวลาเดินรถบรรทุกจากวิ่งได้หลัง 10 โมงเช้า เปลี่ยนเป็นให้วิ่งได้หลังเที่ยงคืนถึงตี 4 ตั้งเป้าภายใน 1 เดือนประกาศกฎกระทรวงเพื่อบังคับใช้ คมนาคมใจดีเตรียมประกาศลดค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์-โทลล์เวย์ 5-10 บาท/คัน ใน ส.ค.นี้ ส่วนนโยบายแกร็บถือเป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วน 3 เดือนรู้ผล
หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากปัญหาการจราจรติดขัดในถนนทุกสายทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะนี้ตนมีนโยบายที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคมทั้งกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.)ไปประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดูในเรื่องของการแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบที่จะให้ปรับเปลี่ยนการบังคับของข้อกฎหมาย ให้รถยนต์ทุกประเภทที่เดินทางสัญจรผ่านถนนหลวง ทางหลวงชนบท (ทช.) ที่มีช่องทางจราจร 4 ช่องทางขึ้นไปให้ผู้ขับขี่รถทุกประเภทสามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม.ได้ จากเดิมรถทุกประเภทวิ่งความเร็วได้ไม่เกิน 90 กม./ชม. ซึ่งเรื่องดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน เพื่อแก้ไขกฎระเบียบข้อบังคับของกฎหมาย ก่อนที่จะประกาศออกมาเป็นกฎกระทรวง
รมว.คมนาคมกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาความเป็นไปได้ที่จะปรับเปลี่ยนการอนุญาตให้รถขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกให้มาวิ่งบนถนนทางหลวงในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ในช่วงเวลา 24.00-04.00 น.แทนจากเดิมตามกฎหมายเคยอนุญาตให้สามารถวิ่งรถบนถนนหลวงได้ในช่วง 10.00-15.00 น.ซึ่งในเรื่องนี้จะต้องได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือนเช่นกัน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะขอความร่วมมือรถบรรทุก และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อบังคับใช้ตามกฎหมาย
...
นายศักดิ์สยามกล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายการให้บริการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ ถือเป็นวาระแห่งชาติที่พรรคภูมิใจไทยประกาศไว้เป็นนโยบายที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้มีไว้บริการ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เร่งดำเนินการแก้ไขในเรื่องข้อกฎหมายให้ถูกต้อง เพื่อประกาศให้มีผลบังคับได้ภายใน 3 เดือนนี้ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการช่วยลดค่าครองชีพประชาชน กระทรวงคมนาคมยังมีนโยบายปรับลดค่าผ่านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) และทางด่วนโทลล์เวย์ลงตั้งแต่ 5-10 บาท/คัน ซึ่งการปรับลดราคาดังกล่าวจะไม่ต้องกระทบต่อสัญญาสัมปทาน ซึ่งจะต้องได้ข้อสรุปใน 1 เดือน
รมว.คมนาคม ยังกล่าวถึงการปรับปรุงคุณภาพรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่ามีนโยบายหากรถเมล์ร้อนคันใดต้องปลดระวางให้เปลี่ยนเป็นรถปรับอากาศทั้งหมด ส่วนการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้านั้นนโยบายกระทรวงคมนาคมทำแน่ แต่จะเริ่มปรับลดราคารถไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้ของภาครัฐก่อน คือ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ และรถไฟฟ้าสายสีม่วง รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งภายใน 1 เดือน ต้องมีการลดราคาค่าโดยสารจริง นอกจากนั้นให้นโยบายเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางมากขึ้น ลดการขนส่งสินค้าทางถนนลง ซึ่งจากเดิม มีการขนส่งทางระบบราง 5-10 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 3 ปี ซึ่งการทำดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณการจราจรบนท้องถนนให้ลดลง
นายศักดิ์สยามกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการขนคนทางอากาศ กระทรวงคมนาคมมีเป้าหมายที่จะให้สายการบินที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงคมนาคม ทั้งสายการบินไทย สายการบินไทยสมายล์ นโยบายต่อไปให้เที่ยวบินสุดท้ายของเส้นทางบินในประเทศส่วนใหญ่ การบินแต่ละวันจะต้องไปสิ้นสุดที่สนามบินต่างจังหวัด เนื่องจากเพื่อให้ในวันต่อไปสามารถขนประชาชนจากต่างจังหวัดเข้ามายังสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย ส่วนแผนการพัฒนาสนามบินปรับปรุงขยายขีดความสามารถของสนามบินก็จะให้เดินหน้าต่อไป ทั้งการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง เพื่อรองรับการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารได้กว่า 150 ล้านคน/ปี ในอีก 3 ปีข้างหน้า
“ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย จะทำโดยที่พวกเราไม่ติดคุกหรือต้องหนีไปต่างประเทศเด็ดขาด” นายศักดิ์สยามกล่าว