เครือข่ายต้านเหล้า ซัด ปาร์ตี้แข่งดื่มเบียร์ ทำลูกค้าเสียชีวิต จี้ เอาผิดเจ้าของธุรกิจน้ำเมาให้ถึงที่สุด ด้านนักวิชาการยืนยัน เอาผิดได้ทั้งอาญาและทางแพ่ง
วันที่ 2 ก.ค.62 นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจแอลกอฮอล์ กล่าวถึงกรณีข่าวเหตุการณ์ปาร์ตี้น้ำเมาของสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ได้มีการจัดแข่งขันดื่มเบียร์ ซึ่งปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมแข่งขันเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าทางเครือข่ายฯ ขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต ครอบครัว และเครือญาติ เราไม่อยากเห็นความสูญเสียลักษณะนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นอีกต่อไป และขอประณามธุรกิจที่นำกิจกรรมแข่งดื่มแห่งความตาย มาใช้ในการส่งเสริมการขายเบียร์ สุรา เพราะกิจกรรมแข่งดื่มเบียร์หรือสุรา เป็นกิจกรรมที่อันตรายมาก หากดื่มเบียร์ในปริมาณมากๆ ในเวลาสั้นๆ เพราะที่ผ่านมา ทางเครือข่ายฯ ได้รับร้องเรียนเรื่องกิจกรรมแข่งขันดื่มเบียร์ตามสถานบันเทิงบ่อยครั้ง ทั้งมีการโฆษณา เชิญชวนให้ลูกค้ามาร่วมแข่งขัน รวมทั้งมักพบเห็นพฤติกรรมการแข่งขันกันเองในงานเลี้ยง ดื่มแบบชอตต่อชอตบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
“กรณีที่ ผับ บาร์ ผู้ประกอบการ จัดดื่มเบียร์ถือว่าเป็นโปรโมชั่น ส่งเสริมการขาย ตั้งใจสร้างความท้าทายให้ลูกค้า และเริ่มนิยมและแพร่หลายมากขึ้น เป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 30 (4) ให้หรือเสนอให้สิทธิ์ในการเข้าชมการแข่งขัน การแสดง การให้บริการการชิงโชค การชิงรางวัล หรือสิทธิประโยชน์อื่นใด เป็นการตอบแทนแก่ผู้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มาตรา 30 (5) โดยแจก แถม ให้ หรือแลกเปลี่ยนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกับสินค้าอื่น แจกจ่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวอย่าง หรือจูงใจให้บริโภค รวมถึงการกำหนดบังคับซื้อทั้งทางตรงและทางอ้อม มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งอาจผิดมาตรา 32 เรื่องการโฆษณาตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 รวมถึงปรับรายวันอีกวันละ 50,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง” นายคำรณ กล่าว
...
นายคำรณ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาประเด็นการแข่งขันดื่มเบียร์สุรา ยังขาดความจริงจัง จากกระทรวงสาธารณสุข ในการบังคับใช้กฎหมาย หรือสื่อสารต่อสาธารณะว่า เป็นพฤติกรรมทั้งที่เป็นพฤติกรรมอันตรายมาก และยังพบเห็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสถานบริการและสื่อออนไลน์อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาด ต้องเท่าทันการตลาดฉ้อฉลซึ่งเดิมพันกับชีวิตคนแบบนี้”
ด้าน ผศ.วศิน สุวรรณรัตน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่ กล่าวว่า ตามหลักการแล้วกรณีนี้ถือว่าผิดกฎหมาย ทั้งทางแพ่ง และทางอาญา ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าที่จัดแข่งขัน จะต้องรับผิดในประเด็นที่สามารถเล็งเห็นผลได้ว่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือชีวิตได้ ซึ่งจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายถ้าหากในทางแพ่งเป็นการกระทำละเมิดของร้านซึ่งต้องชดใช้ค่าเสียหายและควรทำให้เป็นแบบอย่างในการบังคับใช้กฎหมายจริงจัง เพื่อป้องปรามมิให้เกิดความสูญเสียจากกิจกรรมสุ่มเสี่ยงแบบนี้อีก.