ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบ “พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น” ผบช.น. ร้องเรียนพฤติกรรมฉ้อฉลของสารวัตรสอบสวน สน.โชคชัย หลังเอาสำนวนคดีจับ 2 ผู้ต้องหาพร้อมยาไอซ์ 3 กก. ไปซ่อน ประวิงเวลาจนส่งฟ้องไม่ทัน ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหา เผยตำรวจนายนี้เคยมีชื่อในจดหมายลาตายของผู้เสียหายรายหนึ่ง เขียนถึง “บิ๊กตู่” ประจานพฤติกรรมเรียกรับเงินค่าสืบคดี ก่อนรมควันฆ่าตัวตาย ผบช.น.ยืนยันไม่เกิน 7 วันรู้ผล ชี้โทษหนักถึงไล่ออก

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ค. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเข้าพบ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับ พ.ต.ท.ประทวน แมลงทับ สว. (สอบสวน) สน.โชคชัย เนื่องจากมีพฤติกรรมทุจริตอย่างร้ายแรง ช่วยเหลือนายจีรวัฒน์ พุดบำรุง น.ส.พนิดา แย้มขยาย 2 ผู้ต้องหา ด้วยการประวิงเวลาส่งสำนวนฟ้องกับอัยการไม่ทันตามกำหนด หลังถูกตำรวจ 191 (บก.สปพ.) จับกุมคดียาไอซ์หนัก 3 กก. เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา

นายอัจฉริยะกล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบคดีนี้ หลังพบข้อมูลผู้ต้องหาทั้งคู่ถูกจับกุม แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดี ทั้งที่ชุดจับกุมส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางและบันทึกจับกุมให้ พ.ต.ท. ประทวน ดำเนินการในฐานะพนักงานสอบสวน ตรวจสอบพบ พ.ต.ท.ประทวน มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่อย่างร้ายแรง เพราะนำสำนวนคดีดังกล่าวไปซ่อน ทำให้ไม่สามารถส่งฟ้องผู้ต้องหากับพนักงานอัยการคดียาเสพติดได้ภายในระยะเวลา 84 วันตาม กำหนดฝากขัง ทำให้ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ออกจากเรือนจำ ปัจจุบันก็ยังไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด

“สำหรับข้อมูลของ พ.ต.ท.ประทวนนั้น อยู่ระหว่างถูกคำสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.น.4 พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การทำคดีล่าช้าและไม่รายงานผลความคืบหน้า กรณีนายไพรวัลย์ แซ่ลี้ รมควันฆ่าตัวตายที่ห้องเช่าในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เขียนจดหมายลาตายประจานพฤติกรรมของตำรวจรายนี้ โดยร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังผู้ตายเอารถกระบะมาสด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน 6723 ร้อยเอ็ด ไปจำนำนายทุนเงินกู้ในพื้นที่ สน.โชคชัย เมื่อวันที่ 15 ม.ค.61 จากนั้น 7 วัน ผู้ตายนำเงินไปไถ่ถอนแต่ติดต่อนายทุนไม่ได้ จึงเข้าแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.ประทวน ต่อมา กลับถูกเรียกรับเงินค่าสืบคดี 2 ครั้งรวม 5,000 บาท กระทั่งเวลาผ่านไปร่วมปีคดีไม่คืบหน้า นายไพรวัลย์เกิดความเครียดเลยตัดสินใจรมควันฆ่าตัวตาย” นายอัจฉริยะกล่าว

...

ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการรับเรื่องร้องเรียนว่า สอบถามไปยังบก.น.4 ได้รับรายงานอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้ว มีโทษถึงขั้นให้ออกจากราชการ ขณะนี้พบ พ.ต.ท.ประทวนทำสำนวนล่าช้าแน่นอน เนื่องจากการทำสำนวนคดีมีกรอบระยะเวลาต้องฝากขังและดำเนินการให้เสร็จสิ้นไม่เกิน 84 วัน ถ้าพนักงานทำล่าช้ามันจะพันไปในเรื่องของความประพฤติ ต้องตรวจสอบการทำงานของพนักงานสอบท่านนี้ย้อนหลัง มีสำนวนที่คั่งค้างหรือไม่ ถ้ามีจะเป็นจำนวนมากแค่ไหนอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องที่ร้องเรียนมานั้นมีโทษถึงไล่ออก ปลดออกอยู่แล้ว สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการลงไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนแล้ว

“ที่มีการตั้งข้อสังเกต เหตุที่ล่าช้าเพราะมีการช่วยเหลือผู้ต้องหา ในลักษณะทุจริตประพฤติมิชอบหรือไม่ อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบว่าเกิดจากความเกียจคร้าน หรือจงใจเพราะมีอย่างอื่นแอบแฝง แต่สำนวนมีอยู่ในมือจำนวนมากคงไม่ใช่แน่ ตอนนี้อย่าเพิ่งให้ผมพูดอะไร ที่แน่ๆคือเกิดผลเสียหายทำให้ผู้ต้องหาถูกปล่อยตัว สำนวนคดีส่งฟ้องไม่ทัน จะทุจริตเรียกรับเงินหรือไม่นั้นขอตรวจสอบก่อน สำหรับรายนี้ใช้เวลาไม่เกิน 7 วันน่าจะทราบผลเป็นเพราะอะไร ส่วนกรณีตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคดีเรียกรับเงินนายไพรวัลย์ ที่รมควันฆ่าตัวตาย ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย บก.น.4 มีคำสั่งให้เจ้าตัวไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.น.4 แล้ว” พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าว