ดีเอสไอร่วมกับ อย. และ สบส. บุกค้น 12 จุด เครือข่ายบริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าเสริมความงาม ยึดของกลางโบท็อกซ์ สารกลูตาไธโอน สารฉีดลดไขมันเถื่อน จากต่างประเทศมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 มิ.ย.2562 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย. ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน ผอ.กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา และ พ.ต.ท.นิรุติ พัฒนรัฐ รอง ผอ.กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมแถลงผลบุกทลายเครือข่ายบริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าเสริมความงาม อาทิ สารโบท็อกซ์ สารกลูตาไธโอน สารฉีดลดไขมัน ฯลฯ จากต่างประเทศที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กับผลิตภัณฑ์ปลอม และไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. 12 จุด ยึดของกลางกว่า 400,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า กองคดีทรัพย์สินทางปัญญาดีเอสไอ ได้สืบสวนทราบว่ามีขบวนการนำสินค้าเสริมความงาม เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ยาที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า ทั้งปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น ที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาจาก อย. นำเข้ามาในราชอาณาจักร และจำหน่ายให้กับลูกค้าหลายกลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มลูกค้าที่เป็นคลินิกเสริมความงามของขบวนการและคลินิกเสริมความงามอื่นๆ ในกรุงเทพมหานคร ตลอดจนกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ซื้อยาไปใช้เอง และกลุ่มลูกค้าที่นำยาไปรับจ้างฉีดให้กับบุคคลอื่นทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด 

...

ด้าน พ.ต.ท.พเยาว์ เผยว่า ต่อมาในวันที่ 12 มิ.ย. จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมสนธิกำลังจัดชุดปฏิบัติการร่วมตรวจค้น 12 จุด โดยจุดที่ 1-7 เป็นบ้านเช่าต่างๆ ตามชานเมือง พบของกลางจำนวนมาก ก่อนทำการยึดมาตรวจสอบ ส่วนจุดที่ 8 บริษัทเดอร์มาลิงค์ จำกัด ชั้นที่ 89 ห้อง 804 อาคาร AIA CAPITAL CENTER ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. จุด 9 บริษัทเอเมค อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด ชั้นที่ 89 ห้อง 804 อาคาร AIA CAPITAL CENTER ถนนรัชดาภิเษก กทม. จุดที่ 10 ห้องเช่า ในอาคารรัชดาเพลส อพาร์ทเมนท์ ซอยรัชดา 13 ถนนรัชดาภิเษก กทม. จุดที่ 11 คลินิก เอเมค สาขาทองหล่อ ในอาคาคารฟิฟตี้ฟิฟ ชั้น 2 ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จุดที่ 12 คลินิก เอเมค สาขาสีลม อาคารดวงทิพย์ ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. 

ขณะที่ นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า ผลการตรวจค้นทั้ง 12 จุด พบของกลางเป็นยาละเมิดเครื่องหมายการค้า ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา และผลิตภัณฑ์เสริมความงามจำนวนประมาณ 400,000 ชิ้น มีมูลค่าของกลางประมาณ 80 ล้านบาท และการกระทำความผิดในคดีนี้เป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 

"โดยกลุ่มขบวนการดังกล่าวมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก่อนกระจายไปตามแหล่งที่พักต่างๆ ก่อนกระจายสินค้าทางไปรษณีย์เอกชน หรือฝากส่งให้กับรถจักรยานยนต์รับจ้างส่งของเพื่อนำส่งสินค้าไปส่งให้กับลูกค้าอีกต่อหนึ่ง ส่วนลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดจะฝากส่งต่อให้กับรถตู้โดยสารประจำทาง หรือรถทัวร์ประจำทางตามสถานีขนส่งแล้วแต่กรณี และยังมีเครือข่ายที่เป็นลูกค้ารับสินค้ามาจำหน่ายให้กับลูกค้าผ่านอินสตาแกรม แอปพลิเคชันไลน์ นอกจากนี้ยังตรวจสอบบัญชีขอกลุ่มนายทุน พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 800 ล้านบาท หลังจากนี้จะเรียกผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป" พ.ต.อ.ไพสิฐ เผย.