เกือบ 5 ปีผ่านไปแล้วที่ "หลวงพี่หมี" พระสุธรรม ฐิตธัมโม หรือนายสุธรรม นทีทอง อดีตเลขาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา ได้สละทางโลก หันหน้าเข้าทางธรรม ซึ่งขณะนี้ได้สร้างความฮือฮาให้กับสื่อยักษ์ใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะเริ่มออกเดินธุดงค์เพื่อสันติภาพรอบโลก รวมระยะทางกว่า 19,000 กิโลเมตร โดยหวังใช้การเดินธุดงค์และหลักธรรม เป็นกิจกรรมที่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อเผยแผ่ธรรมะและสร้างสันติสุข ท่ามกลางความขัดแข้งที่กำลังเกิดขึ้น

ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ตามติดการเดินเท้าของหลวงพี่หมี จากมหาสมุทรแปซิฟิก จรดคราบสมุทรแอตแลนติก เป็นเส้นทาง 5,000 กว่ากิโลเมตร เริ่มต้นออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2562 ณ เมืองซานตาโมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย มีจุดหมายปลายทางที่ อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ หรือ "Statue of Liberty" นิวยอร์ก ซิตี้ เรียกว่าเป็นคนไทยคนแรกที่เดินข้ามผ่านเส้นกั้นเวลาในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีกำหนดที่จะไปถึงนิวยอร์ก กลางเดือน ก.ค. นี้ รวมระยะเวลากว่า 5 เดือน

"หลวงพี่หมี" พระสุธรรม ฐิตธัมโม อดีตนักการเมืองไทย

นายสุธรรม นทีทอง อดีตเลขาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา อดีตโฆษกกระทรวงแรงงาน ได้ตัดสินใจอุปสมบทไปเมื่อประมาณปี 2557 ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความคิดว่าจะสึกกลับไปทำงานด้านการเมืองเหมือนครั้งก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่า "การเมืองไทยพายเรือในอ่าง" หาความปรองดองสมัครสมานสามัคคีไม่ได้อย่างแท้จริง

"ตั้งแต่เรียนจบมาจากธรรมศาสตร์ ได้เผชิญกับเหตุการณ์ทางบ้านเมืองหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นครั้งสำคัญที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ จากนั้นก็ได้เติบโตมาในเส้นทางการเมืองจวบจนปี 2557 ภายหลังการยึดอำนาจของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงตัดสินใจโกนหัวบวชเป็นพระ และเมื่อลองเข้ามาศึกษาทางธรรมรู้สึกได้ว่าจิตใจเราสงบขึ้น ตัวเราเองก็สามารถที่จะช่วยเหลือสังคมโดยการเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีลูกศิษย์ลูกหาที่พร้อมจะเปิดรับฟังคำสอนแล้วนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติต่อ ตรงนี้ถือว่าได้ประโยชน์มากกว่าเล่นการเมือง"

...

เพราะที่ผ่านมาเคยอุทิศตัวเพื่อสังคม ลงไปเล่นการเมืองหวังจะแก้ไขข้ามผ่านปัญหาเดิมๆ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่เคยเห็นผลว่ามันจะมีอะไรดีขึ้นมา เลือกตั้งจบ เรื่องราวในบ้านเมืองเรากลับไม่จบ และมีเหตุการณ์ซ้ำๆ เกิดขึ้นทำให้รู้สึกสลดหดหู่ใจที่ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรมันได้ เพราะคนไทย ไม่มีความรักสามัคคีปรองดองกันอย่างแท้จริง

แสดงออกเชิงสัญลักษณ์สร้างสันติสุข

จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ในหลายประเทศบนโลกเกิดความวุ่นวาย มีปัญหาขัดแย้งกันเองทั้งภายในและระหว่างประเทศ การออกเดินเท้าครั้งนี้จึงต้องการจะแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ หวังที่จะให้คนรับทราบว่าเรามีความจริงจังตั้งใจแค่ไหนที่จะให้เกิดความสันติสุข และตั้งใจจะเดินไปรอบโลก โดยก่อนหน้านี้ได้เริ่มต้นเดินเท้าไปแล้วที่เมืองไทย ก่อนจะมาทำกิจกรรมนี้ต่อในสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ถือได้ว่าประชาชนให้ความสนใจและต้อนรับเป็นอย่างดี

"มีทั้งคนไทย และคนอเมริกัน รวมไปถึงคนสัญชาติอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ตามรัฐต่างๆ ระหว่างที่เราได้เดินผ่าน ซึ่งก็มีแต่คนแวะเข้ามาทักทายพูดคุย หยิบยื่นถวายของกินให้ตลอดเส้นทาง แสดงความรู้สึกถึงความเป็นมิตรไมตรีอันดี เมื่อเขาถามว่าเราเดินไปไหน เราก็ได้อธิบายจุดประสงค์ของเราให้เขาเหล่านั้นฟัง ซึ่งขณะนี้เราได้เดินมาครึ่งทางแล้ว อยู่ที่รัฐโอคลาโฮมา คาดว่ากลางเดือน ก.ค. จะไปถึงนิวยอร์ก"

เผยแผ่ธรรมะ บอกเล่าให้คนรู้จักความเป็นไทย

"คนในสหรัฐอเมริกา หลายคนรู้จักประเทศไทย ในขณะที่หลายคนไม่รู้จัก ดังนั้นในระหว่างที่เราเดินเท้าพบปะพูดคุยกับคนเหล่านี้ นอกจากจะเผยแผ่ธรรมะ บอกวัตถุประสงค์ที่เราต้องการแล้ว ยังเล่าเรื่องราวของประเทศไทยให้คนเหล่านี้ได้ทราบว่าอยู่ตรงไหนของโลก และประเทศเรามีธรรมชาติภูเขาทะเล สวยงามอย่างไร อาหารการกินอุดมสมบูรณ์แค่ไหน รวมไปถึงวัฒธรรมอันดีงามแต่โบราณกาล สิ่งเหล่านี้ไม่อาจหาได้จากที่ไหนบนโลก นอกจากประเทศไทย"

...

นอกจากนี้สื่อท้องถิ่น และสื่อยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาต่างก็ให้ความสนใจตามติดชีวิตพระไทยที่เดินเท้าในสหรัฐอเมริกา พร้อมกับสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวความเป็นมา ทำให้กลายเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง เมื่อชาวบ้านทราบข่าวว่าจะเดินเท้าผ่านยังจุดใด ก็พร้อมกันมายืนรอให้กำลังใจ พร้อมกับถวายของกินให้มากมายจนกินไม่หมดต้องแบ่งบริจาคให้ผู้คนระหว่างทาง

ไม่คิดสึกกลับไปเล่นการเมืองอีกเลย

"ขณะที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาก็ได้จำพรรษาที่ "วัดพุทธธรรม" ชิคาโก มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนไทยหลายท่าน ซึ่งก็มีความคิดเห็นทางการเมืองต่างกันไป ต้องยอมรับว่าเราก็ก้าวผ่านความแตกแยกแบ่งฝ่ายมาแล้ว ลูกศิษย์ที่เข้ามาพูดคุยด้วยเลยมีทุกแนวคิด เราก็ต้องสอนให้เค้าคิดใหม่คิดให้ประเทศชาติไปสู่สถานการณ์การเมืองที่สงบสุข พี่น้องคนไทยไม่มาทะเลาะกันเอง"

หากถามว่ามีกำหนดสึกเมื่อไหร่ พูดได้เต็มปากว่าไม่มีกำหนดที่จะสึก ยังไม่เคยคิดในหัว แม้ว่าเพื่อนนักการเมืองรุ่นเดียวกันจะพากันสึกไปหมดแล้ว ก็ไม่เคยต้องการที่จะทำตามนั้น เพราะเชื่อว่าการอยู่ในผ้าเหลืองสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศด้านทางธรรมได้มากกว่า ไม่อยากเป็นแล้วนักการเมือง คิดว่าจะบวชไปเรื่อยๆ เพราะมีหลายอย่างให้ต้องคิดต้องทำเพื่อศาสนา เพื่อส่วนรวม ณ วันนี้ไม่ได้คิดจะเดินธุดงค์เพื่อสันติภาพของคนไทย แต่คิดทำเพื่อคนทั้งโลก เพื่อที่จะได้อยู่กันอย่างสงบสุข เพื่อนมนุษย์ไม่รบราฆ่าฟันกันเอง

...

กลับเมืองไทยจะเดินไปฝรั่งเศส

"เป็นแผนการที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนมาสหรัฐอเมริกา ว่าเราจะเดินจากประเทศไทยข้ามไปยังประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอาจใช้เวลานานปีกว่า โดยจะเริ่มเดินออกจากชายแดนไทยออกไปทางประเทศพม่า เวียดนาม ลัดเลาะไปเรื่อยๆ ออกจีน จนประทั่งเดินไปสู่ประเทศยุโรป ระยะทางประมาณ 1 หมื่นกว่ากิโล ซึ่งก็เพื่อที่จะรนรงค์เพื่อสันติภาพ เผยแพร่ศาสนาพุธ และเล่าเรื่องราวความเป็นไทยให้ใครต่อใครได้รู้จักบ้านเรา"

ชีวิตนี้ถึงจะต้องตายไปก็ไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรอีกแล้ว เพราะว่าได้ทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวมตามที่ตั้งใจไว้ หากจะป่วยไข้ไม่สบายหรือเป็นอะไรระหว่างทางเดินก็ไม่ได้คิดกังวลใจหรือกลัวว่าสิ่งร้ายๆ จะเกิดขึ้นกับตัวเอง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว คิดเพียงแค่ว่าจุดหมายคืออะไร ก็เพียงตั้งใจจะทำให้ได้แบบนั้น ชีวิตนี้เกิดมาคุ้มค่าแล้ว

สร้างสถานปฏิบัติธรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาในไทย

เมื่อได้เดินทางตามที่กำหนดไว้ ก็ยังไม่คิดว่าจะสึก เพราะมีความตั้งใจที่จะบวชไปตลอดชีวิต ในปั้นปลายอยากจะสร้างสถานปฏิบัติธรรมสอนศาสนาคนไทย และต่างชาติ ซึ่งต้องการจะเน้นไปทางคนต่างชาติมากกว่า เพราะว่าปัจจุบันต่างชาติทั่วโลกเริ่มที่จะสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น การสร้างสถานปฏิบัติธรรมขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดวิชาความให้คนเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ตั้งใจไว้หลังจากเดินธุดงค์เพื่อสันติภาพรอบโลกเสร็จสิ้นแล้ว

...

"ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก อุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ภูมิประเทศก็สวยงามมาก ถ้าหากคนไทยมีความรักสามัคคีเห็นอกเห็นใจกัน รับรองได้ว่าประเทศเราจะพัฒนารุดหน้าไปไกลทั้งด้าน วัตถุเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมไปถึงจิตใจคนในประเทศก็จะยกระดับ ไม่มีเรื่องให้ต้องแบ่งฝ่ายทะเลาะกันเองเหมือนเช่นทุกวันนี้" พระสุธรรม ฐิตธัมโม ให้ข้อคิดทิ้งท้าย