ข่าวแชร์ข้อมูลเท็จในโลกออนไลน์ในยุคปัจจุบัน มีให้เห็นบ่อย ยิ่งช่วงเลือกตั้ง แต่ละฝ่ายที่เสียประโยชน์ทางการเมือง จะสร้างข่าวปลอมข่าวเท็จโจมตีกันไปมา หรือโจมตีรัฐบาล สร้างความเสียหายต่อประเทศ คนที่เอามาแชร์ยังไม่ทันดูรายละเอียด แค่เห็นเป็นข่าวเป็นประเด็นรีบแชร์ต่อทันที ทั้งที่ผิดกฎหมาย คนแชร์ต้องรับโทษ
ล่าสุดมีเว็บไซต์พาดหัวข่าวว่า “ปลดด่วน 2 กกต. สลับรถขนบัตร” และ “อัปยศที่สุดประเทศไทย ยัดบัตรผี 600,000 ใบ สลับรถในโรงรถ ปธ.ชี้อาจมีเลือกตั้งใหม่” พร้อมการนำภาพนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี และนายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้งมาตัดต่อรวมกัน
เป็นข้อมูลที่กระจายส่งเผยแพร่ไปตามสื่อโซเชียลหลายช่องทางมีการนำมาแชร์ต่อกัน
ทั้งที่เป็นข้อมูลไม่จริง
ทำให้ กกต.ได้รับความเสียหาย มีประชาชนเข้าใจผิดหลงเชื่อจำนวนมาก มีการแอบอ้างชื่อคนมาทำให้ข่าวมีน้ำหนัก เพื่อให้คนหลงเชื่อ นำข้อมูลแชร์กันต่อไป ทำความสับสนและเสียหายให้หน่วยงาน
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ร่วมกันสืบสวนจับกุมคนที่เผยแพร่แชร์ข้อมูล 9 ราย
ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษสูง จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่ทำคดีแชร์ข้อมูลปลอม ทำประเทศเสียหายมาหลายคดี ฝากเตือนประชาชนเป็นข้อคิด ช่วงนี้รอประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นทางการ และอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างความปั่นป่วนผลการเลือกตั้ง
สร้างข่าวปลอมโจมตีใส่ร้ายป้ายสี
...
ปัญหาความสับสนในสังคมเป็นเรื่อง “สื่อออนไลน์” ประชาชนที่ติดตามข่าวสาร ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของข่าวสาร มีสติไตร่ตรองก่อนแชร์หรือส่งต่อข่าวสาร เพื่อไม่ให้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
คงไม่ใช่คดีแรก มีปัญหามานาน พิษภัยของสื่อออนไลน์ ยิ่งช่วงรอตั้งรัฐบาล จะมีข่าวแบบนี้มาบ่อย คนไม่หวังดีต่อประเทศ คนที่สร้างข่าวทำข่าวปลอม มักจะอยู่ต่างประเทศ แต่คนไทยหลายคนมักจะเป็นเหยื่อต่อข่าวปลอม เอามาแชร์ต่อส่งต่อ โดยไม่รู้เท่าทันข่าวปล่อย หรือความที่อยากโชว์เป็นผู้รู้ในโลกออนไลน์
คนที่เห็นแล้วเอามาแชร์ ถ้าไม่ระวังตรวจสอบให้ดี นอกจากกลายเป็น “เหยื่อทางการเมือง” แล้ว จะกลายเป็นผู้ต้องหาติดคุกติดตะรางได้ เป็นภัยที่น่ากลัวของ “สื่อออนไลน์” ที่เราต้องช่วยเตือนตัวเอง
เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th