ศาลอาญารับฟ้อง “คนไทย UK” โพสต์เฟซบุ๊กบิดเบือน หมิ่น “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” อ้างบินไปอังกฤษเพื่อหนีคดีพิพากษากบฏ สอบคำให้การแล้วจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ศาลนัดตรวจหลักฐาน 29 เม.ย.นี้...
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (28 ก.พ.) พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ทิพย์วารี พลบัว, นายธงชัย เหล่าแสง, นางนลินธรณ์ วิชัยฤทธิพัฒน์, วีระพงศ์ ดีวงษ์มาศ, อภิรักษ์ เรือนแก้ว, นายธนวัต ภักดี, นายสรพงษ์ ปันวิชัย, นายศักดา สุขวารี, นายธนกฤต ทับเงิน และนายเจษฎา พวงงาม จำเลยที่ 1-10 ในความผิดฐาน เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (5) ซึ่งจำเลยทั้ง 10 คน ได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน
คำฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2561 นางวัฒนา เอ็บเบจซ์ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้องและเป็นสมาชิกเพจเฟซบุ๊กดอทคอม ชื่อบัญชี “Khonthaiuk” ได้ลงภาพของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความบรรยายประกอบภาพว่า “กูจะพาคนไม่กราบขอโทษมึงถึงที่ อย่าหลบแล้วแระกัน 10 Downing ST. Westminster,London SW1A 2AA” “20 มิ.ย.ลุงตูบไปอังกฤษพกเมียและหลบภัย” “22 มิ.ย.ศาลฎีการับฟ้องว่าลุงตูบเป็นกบฏ” และมีรูปของพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร กับข้อความว่า “..จะซื้อดาวเทียม 91,200 ล้านมาเก็บไว้ซ่อมแดกส่วนต่างไม่ซื้อแล้ว ก็ไม่ว่าอะไร แต่นี้ต้องออกหมายจับด้วยเหรอ ถ้าไม่จริงจะร้อนตัวทำไม หรือรับไม่ได้กับเรื่องจริง”
โดยภาพและข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูล ที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์สภาพที่คอมพิวเตอร์อาจจะประมวลผลได้ไว้ที่หน้าบัญชีชื่อ “Khonthaiuk” ของตนเพื่อให้สมาชิกเฟซบุ๊กดอทคอม ที่เข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กของตนเองอ่านแล้วเข้าใจว่า ขณะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปราชการที่ประเทศอังกฤษ จะใช้โอกาสดังกล่าวพาภรรยาและบุตรไปพักอาศัยที่ประเทศอังกฤษ เพื่อหลบหนีคดีที่ศาลฎีกาจะนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 22 มิ.ย.2561 ซึ่งเป็นคดีที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลยื่นฟ้องคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ว่าร่วมกันกระทำผิดข้อหากบฏ ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์
...
เพราะความจริงแล้วระหว่างวันที่ 20-22 มิ.ย.2561 พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อหารือข้อราชการทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรอังกฤษ รวมทั้งหารือกับนักธุรกิจของประเทศอังกฤษ อีกทั้งวันที่ 22 มิ.ย.2561 ที่ศาลฎีกาฟังคำพิพากษานั้น เป็นเพียงการวินิจฉัยว่าจะให้ศาลชั้นต้นรับคำฟ้องโจทก์ในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ไว้พิจารณาหรือไม่เท่านั้น ยังไม่ใช่การตัดสินว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้กระทำความผิดข้อหากบฏหรือไม่ ข้อมูลดังกล่าวเป็นการสร้างความสับสนเข้าใจผิดแก่ประชาชน จนอาจเป็นช่องว่างให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์และมีผู้เข้าใจผิดร่วมกันสร้างแนวร่วมต่อต้านรัฐบาล ทำให้เกิดความขัดแย้งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ตลอดจนสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน เป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ เหตุเกิดที่ประเทศอังกฤษ และแขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม.เกี่ยวพันกันขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (5)
ศาลพิจารณาแล้วรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.605/2562 และสอบคำให้การจำเลย ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 29 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ต่อมาญาติจำเลยทั้ง 10 คน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทุกคนประกันตัวไป โดยตีราคาประกันคนละ 1 แสนบาท