เรื่องอัศจรรย์และสิ่งปาฏิหาริย์ เกี่ยวกับพระเกจิดังในเมืองไทยหลังการมรณภาพ มีให้เห็นอย่างต่อเนื่องตามความเชื่อ ทั้งสรีระร่างไม่เน่าเปื่อย หรือเผาสรีระร่างแล้วไม่ไหม้ สร้างความฉงน งุนงงให้กับบรรดาลูกศิษย์

หากย้อนไปเมื่อปี 2550 เป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับ รวมถึงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ในงานพระราชทานเพลิงศพพระครูประภัทร์วิริยคุณ หรือหลวงพ่อด่วน อดีตเจ้าอาวาสวัดวารีพบรรพต หรือวัดบางนอน ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2550 ภายหลังมรณภาพไปเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2550 โดยวันนั้นมีลูกศิษย์ ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธีในเวลา 21.00 น. ได้มีการประชุมเพลิง ณ เมรุลอย ด้านข้างวิหารพระพุทธไสยาสน์ ตรงข้ามอาคารรูปปั้นหลวงปู่ทวด ซึ่งต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากไฟติดนานกว่า 30 นาที แต่ร่างลำตัวใบหน้าไม่ไหม้ ยังอยู่ในสภาพนอนหงายเหมือนคนนอนหลับ ส่วนจีวรมีรอยไหม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

...

เมื่อเป็นเช่นนั้นทางคณะกรรมการวัด จึงได้ยุติการประชุมเพลิง นำร่างหลวงพ่อด่วน ลงจากเมรุพิธี และบรรจุลงในหีบศพวางไว้ในวิหารพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพดังเดิม ก่อนเปลี่ยนบรรจุลงโลงแก้ว เพื่อให้ลูกศิษย์ผู้เลื่อมใสศรัทธากราบนมัสการ ตามความประสงค์ของหลวงพ่อด่วนไม่อยากให้เผาร่าง ที่เคยกล่าวกับหลานชายแท้ๆ ขณะรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการอาพาธ “ถ้ากูเป็นอะไรไป อย่าเผากู กูร้อน ถ้าใครไม่เชื่อแล้วจะได้เห็นเอง” จนเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆ ในระหว่างทำพิธีประชุมเพลิงเมื่อกลางดึก

อีกเรื่องปาฏิหาริย์เหลือเชื่อ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2555 ขณะลูกศิษย์หลายพันคนร่วมพิธีฌาปนกิจ สรีระสังขารหลวงพ่อประสิทธิ์ อุฏฐายี อดีตเจ้าคณะตำบลวังสำโรง และอดีตเจ้าอาวาส วัดทับปรูพัฒนาราม ต.ทับหมัน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2552 สิริรวมอายุ 80 ปี โดยระหว่างพิธีประชุมเพลิง มีการจุดไฟถึง 3 ครั้ง แต่ไฟไม่ลุกไหม้โลง ไหม้เพียงดอกไม้จันทน์เท่านั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงมีความเห็นให้ย้ายโลง ขึ้นไปที่ศาลาการเปรียญ และนำสรีระสังขารหลวงพ่อประสิทธิ์ ไปบรรจุที่โลงแก้วใส เพื่อให้ลูกศิษย์กราบนมัสการ

นอกจากนี้ยังมีเหตุอัศจรรย์ ในพิธีพระราชทานเพลิงศพพระครูสมุห์ ธรรมสุนทร หรือหลวงพ่อสุด อดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลง เกจิชื่อดังใน  จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2545 โดยร่างหลวงพ่อสุดโดนไฟเผาไหม้ไม่หมดทั้งๆ ที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง พบว่ากระดูกหรืออัฐิยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก ไม่บิ่นหรือแตกเป็นชิ้นๆ

สำหรับหลวงพ่อสุด เป็นเจ้าตำรับยันต์ตะกร้อและเสือเผ่น เคยเป็นอาจารย์ “ตี๋ใหญ่” ขุนโจรชื่อดังในอดีต ซึ่งร่ำลือกันว่ามีวิชาล่องหนหายตัว และหนังเหนียว เพราะมีผ้ายันต์และตะกรุดของหลวงพ่อสุด

ส่วนที่วัดพระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีลูกศิษย์ผู้ศรัทธา เดินทางมากราบไหว้สักการะสรีระสังขารหลวงปู่ทิม อดีตเจ้าอาวาสวัดพระขาว มหาเถราจารย์แห่งกรุงอโยธยา ซึ่งไม่เปื่อย ไม่เน่า บรรจุในโลงแก้วประดับลวดลายมุขสวยงาม พร้อมอาสนะรองพื้นโลงแก้วเป็นผ้าไหมสีขาวทอลวดลายดอกพิกุลถักดิ้นทอง ตามที่หลวงปู่ทิม เคยสร้างเตรียมไว้ครั้งเมื่อยังมีชีวิต และได้ละสังขาร สิริอายุรวม 96 ปี เมื่อเวลา 10.55 น. วันอาทิตย์ที่ 22 มี.ค. 2552 หรือกว่า 10 ปีมาแล้ว.

...