เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องพักครู โรงเรียนเทพศิรินทร์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบุกช่วยนักเรียนวงโยธวาทิตเก็บตัว 14 คน อาจารย์ 3 คน ปลอดภัย ภารโรงบาดเจ็บ กระเบื้องบาด ...
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 4 ม.ค. ร.ต.อ.กิตติพล ศรีแพน รอง สว.(สอบสวน) สน.พลับพลาไชย 1 รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารภายในโรงเรียนเทพศิรินทร์ ถนนกรุงเกษม แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ จึงประสานขอรถดับเพลิงจากสถานีดับเพลิงสวนมะลิ และรุดไปตรวจสอบ พร้อมตำรวจป้องกันและปราบปราม สน.พลับพลาไชย 1 อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุ เป็นอาคารชื่อเยาวมาลย์อุทิศ ปิยราชบพิตรปดิวรัดา มีความสูง 6 ชั้น พบแสงเพลิงและกลุ่มควันกำลังพวยพุ่งออกมาจากบริเวณชั้นที่ 3 ของตัวอาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงรีบนำหัวฉีดน้ำเร่งระดมดับเพลิงเป็นการเร่งด่วน โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที เพลิงจึงสงบลง
จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาภายในตัวอาคาร พบมีผู้ติดค้างรวม 17 คน แบ่งเป็นเด็กเรียน 13 คน และอาจารย์ 4 คน ซึ่งทั้งหมดได้ลำเลียงออกมาสู่พื้นราบได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายบุญยืน คงเทียน อายุ 60 ปี หัวหน้านักการภารโรงของโรงเรียนเทพศิรินทร์ ถูกกระเบื้องบาดที่เท้า นำตัวส่ง รพ.หัวเฉียว
จากการสอบสวน นายจตุรงค์ ดุษฎี อายุ 37 ปี หัวหน้าผู้ฝึกสอนวงโยทวาธิต ประจำโรงเรียนดังกล่าว ทราบว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.00 น. ตนลุกมาเข้าห้องน้ำที่อยู่ระหว่างชั้นลอยกับชั้นที่ 6 ก่อนจะกลับขึ้นไปนอนพักผ่อน แต่ขณะนั้นได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงรีบวิ่งลงไปยังชั้นที่ 6 เพื่อรีบปลุกนักเรียนวงโยธวาทิต ที่มาเก็บตัวเพื่อไปแข่งขันงาน BSRU Thailand band competition ในวันที่ 14-15 ม.ค. ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ก่อนที่จะพาเด็กนักเรียนทั้งหมดขึ้นไปหลบอยู่ที่ชั้นลอย และรอทางเจ้าหน้าที่เข้ามารับตัวได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด
...
ส่วนชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นชั้นต้นเพลิง เปิดเป็นห้องพักครูไว้เก็บเอกสารและคอมพิวเตอร์ของอาจารย์ในโรงเรียน ซึ่งตนเองตกใจอยู่เหมือนกัน เนื่องจากมาเก็บตัวเป็นคืนแรก ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้มาก่อน
ร.ต.อ.กิตติพล เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เพลิงไหม้ครั้งนี้ อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรภายในห้องต้นเพลิง ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นห้องพักครูและมีเอกสารต่างๆ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อย่างไรก็ตาม จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป.