กองปราบ จับอดีตนักธุรกิจ หนีหนี้ 20 ล้าน ช่วงวิกฤติฟองสบู่ เหลือเงินติดตัว 2 บาท เร่ร่อน กินนอนตามวัด ก่อนเริ่มหาของมือสองมาวางขาย เลี้ยงชีพ บอกอีกไม่กี่เดือนจะหมดอายุความ แต่มาโดนจับก่อน...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.กก.1 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ป. จับกุมตัว นายอรรณพ หรือ รชต เบญจโรจน์ อายุ 64 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 361/2552 ลงวันที่ 1 ก.ค. ข้อหา "ฉ้อโกง และความผิดเกี่ยวกับเอกสาร" จับกุมได้ที่ ตลาดวัดนางใน ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

พ.ต.ต.ธนศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อประมาณปี 2540 นายอรรณพ เคยเป็นเจ้าของบริษัท แอ๊บ วิน จำกัด ประกอบธุรกิจด้านนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น ได้สั่งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น เป็นสกุลเงินดอลลาร์ สั่งจ่ายผ่านธนาคารแห่งหนึ่ง แต่ต่อมาได้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือฟองสบู่แตก อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท ลอยตัวจากดอลลาร์ละ 25 บาท เป็น ดอลลาร์ละ 56 บาท ทำให้เกิดภาวะขาดทุนมหาศาล จนเป็นหนี้สินกับธนาคารจำนวน 20 ล้านบาท ก่อนจะไม่สามารถแบกรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นได้ จนส่งผลให้บริษัทต้องปิดตัวลงในเวลาต่อมา

จากนั้นได้ขายทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อนำเงินไปคืนให้กับธนาคาร แต่ไม่พอใช้หนี้ นายอรรณพ จึงได้ตัดสินใจหลบหนีเรื่อยมา กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ปัจจุบันได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.อ่างทอง จึงนำกำลังไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวน นายอรรณพ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้าปี 2540 กิจการของตนค่อนข้างรุ่งเรืองมาก มีการสั่งซื้อสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่นมูลค่า 40-50 ล้านบาท เพื่อนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทย อีกทั้งตนยังเคยเป็นถึงหุ้นส่วนบริษัท เครื่องเสียงรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงตอนนี้

...

แต่ต่อมาบ้านเมืองเกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ค่าเงินบาทลอยตัว ทำให้กิจการต้องปิดตัวลง ส่วนตนเองต้องเป็นหนี้สินธนาคารกว่า 20 ล้านบาท เหมือนกับคนสิ้นเนื้อประดาตัว มีเงินติดตัวอยู่เพียงแค่ 2 บาท ไม่รู้จะหาเงินมาใช้หนี้สินอย่างไร จึงตัดสินใจหนีไปอาศัยใบบุญขอข้าวกินและนอนตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนจะเริ่มหารองเท้า และเสื้อผ้ามือสองมาวางขายตามตลาดนัด เพื่อเลี้ยงชีพ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว ทั้งๆ ที่อีกไม่กี่เดือนนี้คดีจะหมดอายุความลงแล้ว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้ศาลอาญาธนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.