ตม.ก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 พัฒนาการขอยื่น “วีซ่า” ผ่านระบบออนไลน์เข้าประเทศ สามารถขอวีซ่าได้ล่วงหน้า 30 วัน หรือไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทางนำร่องก่อน 5 สนามบินใหญ่ เปิดตัวพร้อมข่าวดี รัฐบาลออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยว 20 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจไต้หวัน ระยะเวลา 60 วัน นักท่องเที่ยวเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าบริการออนไลน์ พุ่งเป้ารองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจีนและอินเดีย

ตม.อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวยื่นขอ “วีซ่า” ผ่านระบบออนไลน์ เปิดเผยขึ้นที่ห้องปฏิบัติการธุรการ ฝ่ายตรวจลงตรา อาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 พ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. แถลง ตม. เปิดตัว e-Visa on Arrival (E-VOA) บริการใหม่ รับทำวีซ่า (VOA) ออนไลน์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทย ภายใต้เว็บไซต์ www.evisathailand.com  เพื่อสร้างความสะดวกรวดเร็วพุ่งเป้ารองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจีนและอินเดีย หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างความประทับใจ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สตม.มีบริการใหม่ คือ “โครงการบริการคัดกรองและตรวจสอบเอกสารล่วงหน้าทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-VOA” การขอวีซ่า ผ่าน www.evisathailand.com  ปี 2560 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสร้างรายได้เข้าประเทศมากถึง 1.8 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน ในจำนวนนี้มีประมาณ 5 ล้านคน ที่ยื่นขอวีซ่า ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อเข้าประเทศไทย และในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดียรวมกันถึง 4 ล้านคน เป็นสองใน 20 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจไต้หวัน ที่ประเทศไทยอนุญาตให้ทำวีซ่าเข้าประเทศได้ การขอวีซ่าออนไลน์นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับ

...

นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ได้ขอวีซ่าจากสถานทูต ทั้งนี้ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวที่ยื่นขอวีซ่าในสนามบินต่างๆจำนวนมาก โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ที่เคาน์เตอร์เฉลี่ย 6,000-7,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะในฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปีที่มีจำนวนเที่ยวบินลงพร้อมกันจำนวนมาก แม้ว่าสตม.จะเพิ่มจำนวนช่องให้บริการแต่ยังไม่เพียงพอ

รรท.ผบช.สตม.เผยอีกว่า โครงการขอวีซ่าออนไลน์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวในยุคดิจทัล ภายใต้แนวคิด “Fast & Convenient for Entering to Thailand” ทางเลือกที่สะดวก รวดเร็ว ในการผ่านเข้าประเทศไทย คือ 1.สะดวก นักท่องเที่ยวสามารถยื่นขอวีซ่าได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนโดยไม่เสียเวลาเดินทาง 2.ง่าย ด้วยบริการระบบออนไลน์ ตั้งแต่กรอกข้อมูล ชำระเงิน และได้รับการตรวจสอบข้อมูลเอกสารเบื้องต้น 3.รวดเร็ว สามารถขอวีซ่าได้ล่วงหน้า 30 วัน หรือไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และลดระยะเวลาที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ณ สนามบินปลายทาง 4.ปลอดภัย ด้วยมาตรฐานการชำระเงินระดับสากล และ 5.อุ่นใจ ด้วยเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการพร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง จนกระทั่งถึงสนามบิน

“การยื่นขอวีซ่า (VOA) ผ่านระบบออนไลน์ หรือ E-VOA นักท่องเที่ยวเพียงแค่กรอกข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้นและข้อมูลการเดินทาง พร้อมอัปเดตเอกสารทั้งตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต พร้อมชำระค่าธรรมเนียมจำนวน 2,000 บาท และค่าบริการออนไลน์ 525 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ในช่วงวันที่ 15 พ.ย.61-13 ม.ค.62 ที่รัฐบาลออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า ระยะเวลา 60 วัน นักท่องเที่ยวเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าบริการออนไลน์ จากนั้นจะได้รับการยืนยันเอกสารผ่านทางอีเมล ภายใน 24 ชั่วโมง และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยก็นำสำเนาใบยืนยันที่ได้รับทางอีเมลยื่นที่ช่องตรวจคนเข้าเมืองได้ทันที และมีช่องทางพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่ขอวีซ่าโดยเฉพาะ จะยิ่งทำให้การเดินทางรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยลดการใช้เอกสาร สะดวกในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมออนไลน์ ในทางอ้อมจะเป็นการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ด่านแรกที่เข้าประเทศไทยวิธีหนึ่งด้วย” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เผยต่ออีกว่า เพื่อให้การบริการสะดวกและครอบคลุม สตม. จัดเคาน์เตอร์เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ E-VOA จำนวน 5 แห่ง ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2561 นำร่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองก่อน ตามด้วยสนามบินภูเก็ตวันที่ 19 พ.ย.61 สนามบินเชียงใหม่ วันที่ 26 พ.ย.61 และสนามบินกระบี่ในระยะต่อไป โดยจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากมีข้อสงสัยสามารถ LiveChat ผ่านทางเว็บไซต์ www.evisathailand.com  หรือติดต่อได้ทาง email. Contact@evisathailand.com  สำหรับบริการ E-VOA ในอนาคต คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการมากขึ้น เพราะเป็นทางเลือกหนึ่งที่รวดเร็วกว่าการเข้าคิวที่เคาน์เตอร์ขอวีซ่า หรือการไปขอวีซ่าที่สถานทูตต้องใช้เวลาคัดกรองนานนับสัปดาห์