ขสมก.หนี้ท่วมสะสมแสนล้าน มีรถร่วมเอกชนกว่า 1 หมื่นคัน เฉพาะรถเมล์ร้อน-แอร์เกือบ 4 พันคันที่ขู่หยุดวิ่งต่อรองขึ้นค่าตั๋วนั้น แต่จ่ายค่าสัมปทาน 9 เดือน 105 ล้าน ยังค้างจ่ายอีก 300 ล้าน

จากกรณีที่รถร่วมเอกชน ขสมก.ขอขึ้นค่าตั๋วโดยสาร รถร้อน 3 บาท จาก 9 เป็น 12 บาท และรถแอร์ระยะละ 2 บาท หากไม่อนุมัติจะกระทบต่อรายได้ และขู่หยุดวิ่งให้บริการนั้น เรื่องนี้กระทรวงคมนาคมกำลังพิจารณา และต้องรอข้อสรุปอีกครั้งว่าจะให้ขึ้นราคาหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันรถร่วมเอกชน ขสมก. ถือว่ามีบทบาทต่อชีวิตชาวกรุงมาก เพราะมีจำนวนรถมากกว่ารถเมล์ของ ขสมก.เสียอีก 

จากข้อมูล ณ​ เดือน พ.ค.2561 ที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.รายงานต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินนั้น มีรถบริการในสังกัด ทั้งรถเมล์ของ ขสมก. และของเอกชน รวมกัน 13,942 คัน แบ่งเป็น ขสมก.รถธรรมดา หรือรถร้อน 1,543 คัน, รถแอร์ 1,111 คัน, รถเช่า 117 คัน

ส่วนที่เหลือกว่า 1 หมื่นคัน เป็นของเอกชน แบ่งเป็นรถเอกชนร่วมบริการ รถร้อน 2,037 คัน, รถแอร์ 1,383 คัน, มินิบัส 907 คัน รถเล็กในซอย 2,089 คัน รถตู้ปรับอากาศ 4,626 คัน และรถตู้ CNG เชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ 129 คัน

กลุ่มรถร่วมเอกชนนี้ มีหนี้ค่าสัมปทานที่ต้องจ่าย ขสมก. ณ เดือน มิ.ย.61 มียอดค้างจ่ายรวม 912.66 ล้านบาท กลุ่มที่มากสุดคือรถเมล์เอกชนทั้งรถร้อน และรถแอร์​ 300.69 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มรถตู้ 166.50 ล้านบาท รถเมล์เล็ก 43.80 ล้านบาท รวมแจ้งขอผ่อนจ่ายรวม 400.95 ล้านบาท

ขณะที่รายได้ที่มาจากส่วนแบ่งค่าโดยสารรถเมล์เอกชน จำนวน 105.85 ล้านบาท ส่วนแบ่งรถเมล์เล็ก 34.57 ล้านบาท ส่วนแบ่งรถในซอย 5.62 ล้านบาท ส่วนแบ่งรถตู้ 53.20 ล้านบาท

สำหรับรายได้ของ ขสมก. 9 เดือนที่ผ่านมา (1 ต.ค.60 -30 มิ.ย.61) มีรายได้จากการเดินรถรวม 3,438.16 ล้านบาท ขาดทุน 3,817.20 ล้านบาท เบ็ดเสร็จหนี้สิน ​ณ เดือน มิ.ย.61 มีรวม 110,976.30 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 3,878 ล้านบาท

...