คนแห่เที่ยวสวนสัตว์ดุสิตส่งท้ายก่อน ปิดตำนาน 80 ปี สวนสัตว์กลางกรุงอย่างล้นหลาม 3.5 หมื่นคนส่งผลยอดรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมพุ่งถึง 2.7 ล้านบาท ด้าน ผอ.เขาดินฯเผย คนจากทั่วทุก สารทิศหลั่งไหลเข้าเที่ยวสวนสัตว์ฯ บางรายบินมาจากต่างประเทศเพื่อร่วมอำลา ยืนยันเจ้าหน้าที่ให้บริการอย่างดีที่สุดจนถึงปิดประตูสวน ส่วนสวนสัตว์แห่งใหม่ คลอง 6 ปทุมธานี มีพื้นที่กว้างขวางกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านใหม่ “แม่มะลิ” ฮิปโปฯ ขวัญใจมหาชน จะมีเนื้อที่กว่า 1 ไร่ พร้อมนำสัตว์เด่นอื่นๆในสวนสัตว์ดุสิตกลับไปอยู่ที่ใหม่ด้วยเช่นกัน
วันสุดท้ายของการเปิดให้บริการเข้าชมสวน สัตว์ดุสิต หรือเขาดินวนา สวนสัตว์เก่าแก่ในพื้นที่ กทม. ก่อนที่จะปิดตัวถาวร เคลื่อนย้ายสรรพสัตว์นับพันชีวิตไปอยู่ตามสวนสัตว์ต่างๆนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ว่า ตลอดวัน มีประชาชนและนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาภายในสวนสัตว์ดุสิตอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เดินทางกันมาเป็นครอบครัว รวมถึงมากันเป็นกลุ่มเพื่อน มีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ทุกคนต่างมีสีหน้าที่เปี่ยมสุขที่ได้มาหวนรำลึกถึงวันวาน และเก็บภาพสถานที่ต่างๆ ภายในสวนสัตว์ดุสิตไว้ในความทรงจำ ไม่ว่าจะเป็นโซนที่อยู่ของสัตว์นานาชนิด โซนบึงน้ำที่ปั่นเรือเป็ด ร้านค้าร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ ว่าในช่วงเวลาหนึ่งเคยมีสวนสัตว์ตั้งอยู่กลางกรุงเทพมหานคร ที่สร้างความสุขให้กับคนทุกเพศทุกวัยมายาวนานถึง 80 ปี
ขณะที่ภายในโซนจัดแสดง มีการจัดแสดงสัตว์ให้ชมกันครบทุกชนิดตามปกติ เช่น โซนสัตว์น้ำ เพนกวิน แมวน้ำ โซนสัตว์แอฟริกา ยีราฟ ช้าง ม้าลาย โซนสัตว์เล็ก อย่างแพะ ม้าแคระ เมียร์แคท รวมถึงหมีโคอาลา ตลอดจนโซนสัตว์นักล่า อย่าง เสือ สิงโต หมีสายพันธุ์ต่างๆ แต่จุดที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ โซนฮิปโปโปเตมัส แม่มะลิ อายุ 52 ปี และถั่วแดง อายุ 15 ปี เหลนของแม่มะลิ นอกจากนี้ คนที่มาเที่ยวยังเข้ามาหาซื้อของที่ระลึกที่ทางสวนสัตว์ฯจัดมาเอาใจ อาทิ เสื้อยืด ไปรษณียบัตรสัตว์ต่างๆ ที่ร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ให้บริการถ่ายรูปลงในแสตมป์ 80 ปี สวนสัตว์ดุสิต ด้วย รวมถึงถ่ายรูปที่ซุ้ม เขียนข้อความ “บ๊ายบาย 80 ปี เขาดินวนา” ไว้เป็นที่ระลึกกันอย่างคึกคัก
...
จากการสอบถามผู้มาเที่ยวชมในวันสุดท้ายของการเปิดให้บริการสวนสัตว์ดุสิต ต่างบอกเหมือนกันว่า เข้าใจได้ถึงการย้ายสวนสัตว์ออกไปอยู่ในพื้นที่ที่กว้างขวางกว่า จึงขอพาลูกหลานมาร่วมรำลึกความหลังก่อนปิดตัวลง อาทิ นายไฉน ท้วมมุ อายุ 59 ปี ชาวดุสิต กทม. ที่พาน้องนนท์ หลานชายวัย 2 ขวบ 8 เดือน มาเที่ยวว่า ตั้งใจพาหลานชายมาเที่ยวสวนสัตว์เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้ได้สัมผัสกับสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศ พร้อมกับบอกเล่าถึงสมัยเด็ก ตนเป็นเด็กเคยมาเที่ยว จนมีครอบครัว ก็ได้พาลูกมาสวนสัตว์แห่งนี้ จนมาถึงรุ่นหลานที่ได้มาเที่ยวเป็นรุ่นสุดท้าย เพื่อให้หลานจดจำความรู้สึกดีๆ ก่อนที่จะมีการย้ายสวนสัตว์ไปอยู่คลอง 6 จ.ปทุมธานี แม้ใจจริงไม่อยากให้ย้าย แต่ต้องจำยอม เพื่อสัตว์ได้มีพื้นที่ที่กว้างขึ้น เช่นเดียวกับ น.ส.ดรินทร เลิศบุญอัครพงศ์ ชาวภาษีเจริญ กทม.กล่าวว่า ทุกคนในครอบครัว มีความผูกพันกับสวนสัตว์เขาดิน เพราะเคยมาเที่ยวตั้งแต่รุ่นปู่ ยาย มาถึงรุ่นพ่อ และรุ่นตนเอง วันนี้เป็นวันสุดท้ายตั้งใจมาอำลาสัตว์ต่างๆ ที่เห็นมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ถือว่ามีความประทับใจและได้อำลาส่งสัตว์ทุกชนิดในสวนสัตว์เขาดิน เดินทางไปอยู่บ้านใหม่ที่มีพื้นที่กว้างขึ้น และจะส่งผลให้พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เป็นแหล่งเรียนรู้ของธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบคู่กับประเทศไทยต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากนายสมพงษ์ สวัสดิ์นำ พนักงานบำรุงสัตว์ 4 พนักงานเลี้ยงแม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัส ขวัญใจประจำเขาดิน มานานกว่า 25 ปีว่า ตอนนี้ได้เตรียมช่องทางเดินจากประตูหลังเชื่อมมาด้านหน้า เพื่อให้แม่มะลิและถั่วแดงเดินตามช่องทางเดินเข้ามานอนในกรงเหล็กที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า เพื่อให้แม่มะลิและถั่วแดงคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในกรงเหล็กดังกล่าว ส่วนสุขภาพแม่มะลิแข็งแรงดี มีความพร้อมในการเคลื่อนย้ายไปอยู่บ้านใหม่ชั่วคราวที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี สังเกตจากแม่มะลิกินอาหารได้เยอะปกติ โดยมีสัตวแพทย์เข้ามาตรวจร่างกาย ประเมินสุขภาพตลอด ทั้งนี้ ตนเลี้ยงแม่มะลิมา 25 ปี ทำให้มีความรักความผูกพันเหมือนแม่มะลิเป็นคนในครอบครัว เพราะตนใช้ชีวิตอยู่กับแม่มะลิมากกว่าอยู่กับครอบครัว การเคลื่อนย้ายก็มีความเป็นห่วงเรื่องการเดินทาง เพราะแม่มะลิมีอายุมาก แต่ตนยืนยันจะอยู่ดูแลแม่มะลิจนกว่าบ้านใหม่ที่คลอง 6 จะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านใหม่ที่มีเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ส่วนบ้านที่เขาดินมีเนื้อที่เพียง 100 ตารางเมตร
ด้านนายพิทักษ์ อุ่นซ้อน ผอ.สวนสัตว์ดุสิต กล่าวถึงวันสุดท้ายที่เปิดให้บริการว่า มีประชาชนจากทั่วประเทศไกลสุด คือ จ.เชียงราย และ จ.ยะลา รวมถึงคนไทยที่อยู่ต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวชมในสวนสัตว์ดุสิตอย่างคับคั่งใน 2 วันสุดท้าย มีประชาชนเข้าเที่ยวสวนสัตว์ดุสิตมากถึง 5 เท่า โดยเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าเที่ยวชมถึง 1 หมื่น 7 พันคน ยอดจำหน่ายบัตรจำนวน 1 ล้าน 6 แสนบาท และในวันที่ 30 ก.ย. มีประชาชนเข้าเที่ยวชม 3.5 หมื่นคน ยอดจำหน่ายบัตรจำนวน 2.7 ล้านบาท ขณะที่เจ้าหน้าที่ทุกคนทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเต็มที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบดีเยี่ยมที่สุด เพื่อเป็นตัวแทนสัตว์ต่างๆในการมอบความสุขให้กับทุกคน และประชาชนต่างก็มีความสุขกลับบ้านไปเช่นกัน หลังจากปิดสวนสัตว์ดุสิต เจ้าหน้าที่ทุกส่วนจะต้องเตรียมตัวในการเคลื่อนย้ายสัตว์ไปยังสวนสัตว์ 6 แห่ง ภายใต้การดูแลขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แก่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา สวนสัตว์อุบลราชธานี และสวนสัตว์ขอนแก่น โดยใช้บุคลากร สัตวแพทย์ในองค์การสวนสัตว์ฯ ดำเนินการเคลื่อนย้ายครั้งนี้ มีกำหนดให้เสร็จสิ้นภายใน 120 วัน โดยจะเริ่มย้ายสัตว์เล็กอย่างสัตว์ปีกในวันที่ 2-3 ต.ค.นี้
ผอ.สวนสัตว์ดุสิตกล่าวอีกว่า ส่วนสัตว์ใหญ่ อาทิ ฮิปโปโปเตมัส เช่น แม่มะลิ ถั่วแดง คาดว่าจะย้ายไปที่สวนสัตว์เขาเขียวประมาณ ธ.ค.นี้ สำหรับสวนสัตว์แห่งใหม่ที่คลอง 6 ตั้งอยู่ข้างสนามกอล์ฟอัลไพน์คลอง 6 มีความเป็นธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ มีเนื้อที่ 300 ไร่ พื้นที่กว้างกว่ามาก และกว้างกว่า สวนสัตว์ดุสิตที่มีเนื้อที่ 118 ไร่ หากก่อสร้างสวนสัตว์จะมีขนาดใหญ่มาก และสัตว์จะได้อยู่บ้านใหม่ที่กว้างใหญ่ ทำให้มีสุขภาพที่ดี เบื้องต้นทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสำรวจพื้นที่แล้ว และติดตั้งตู้คอนเทนเนอร์ไว้ก่อน คาดว่าน่าจะมีการก่อสร้างสวนสัตว์ที่คลอง 6 ในเร็วๆนี้
...
ต่อมาเวลา 17.40 น. เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดุสิต นำโดยนายพิทักษ์ อุ่นซ้อน ผอ.สวนสัตว์ดุสิต ได้มายืนบริเวณทางออกประตู 2 ฝั่งถนนราชวิถี เพื่อโบกมือลาขอบคุณประชาชน และนักท่องเที่ยว ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เจ้าหน้าที่บางคนถึงกับน้ำตาไหลออกมาด้วยความรักและผูกพัน จากนั้นเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนประชาชนถึงเวลาปิดทำการสวนสัตว์ดุสิต ก่อนที่จะมีการปิดประตูและนำแผ่นป้ายปิดทำการ มาติดบริเวณหน้าประตูทางเข้าออก โดย ผอ.สวน สัตว์ดุสิตกล่าวภายหลังปิดสวนสัตว์ดุสิตว่า วันนี้เป็นการเปิดให้บริการเป็นวันสุดท้ายของสวนสัตว์ดุสิต ถือว่าการบริการของเจ้าหน้าที่มีความสมบูรณ์แบบ ไม่มีบกพร่องใดๆ ในการให้บริการประชาชน ส่วนในวันรุ่งขึ้นเป็นโปรแกรมเข้าแผนการเตรียมตัวเคลื่อนย้ายสัตว์ไปยังสวนสัตว์ 6 แห่ง ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณประชาชนที่มาเที่ยวชมสวนสัตว์ดุสิตมาโดยตลอด หลังจากสวนสัตว์ใหม่คลอง 6 สร้างเสร็จ สัตว์ที่ถูกย้ายไปอยู่ชั่วคราวใน 6 แห่งมีบางส่วนที่ต้องย้ายมาอยู่ที่สวนสัตว์แห่งใหม่คลอง 6 เพราะต้องดูเรื่องของสุขภาพของสัตว์เป็นหลัก และจะมีสัตว์ตัวใหม่เข้าไปอยู่แทนด้วย เพราะพื้นที่สวนสัตว์แห่งใหม่ มีพื้นที่ 300 ไร่ มีความกว้างมาก รวมถึง สัตว์เด่นในสวนสัตว์ดุสิต จะต้องถูกนำไปโปรโมตที่สวนสัตว์แห่งใหม่เช่นกัน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนาง นันทิยา วงศ์ปิยะสถิตย์ อายุ 36 ปี ชาวจตุจักร กทม.เดินทางมากับน้องโรส วัย 2 ขวบ 4 เดือน ลูกสาว และกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ออกจาก สวนสัตว์ดุสิตว่า ตั้งแต่ทราบว่าสวนสัตว์ดุสิตจะปิดถาวร ตนตั้งใจจะพาน้องโรสมาเที่ยวชมหลายครั้ง แต่ไม่มีโอกาสจนถึงวันนี้ และเดินทางมาถึงสวนสัตว์ดุสิตประมาณ 5 โมงเย็น ก่อนที่จะพาน้องโรสเที่ยวชมตามโซนต่างๆ อาทิ โซนแม่มะลิ ยีราฟ และพยายามอยู่ซึมซับกับบรรยากาศให้นานที่สุด ในการส่งน้องสัตว์ต่างๆไปอยู่บ้านแห่งใหม่ จนเจ้าหน้าที่มาขอร้องให้กลับบ้านเพราะมืดค่ำเกรงจะไม่ปลอดภัย สวนสัตว์แห่งนี้ตนเที่ยวมาตั้งแต่เด็ก จนถึงช่วงวัยรุ่นได้หายไป ก่อนที่จะมีครอบครัว มีลูกต้องพาลูกมาเที่ยว เพื่อซึมซับกับบรรยากาศของสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศไทย แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ต้องย้ายไปอยู่ชานเมือง อย่างไรก็ตาม ตนก็จะพาน้องโรสไปเที่ยวที่สวนสัตว์แห่งใหม่แน่นอน
...