หนีกบดานไทย 3 ปี ถูกตำรวจ 191 พร้อมทีมงาน จับตามหมายแดง INTERPOL ตำรวจ FBI ต้องการตัว ก่อเหตุอุกอาจในหลายประเทศ อุ้ม ฆ่า ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ 

ทีมงาน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. จับกุมชาวโมซัมบิกที่หนีมากบดานในประเทศไทยตามหมายแดง (Red Notice) ของ INTERPOL โดยเป็นหัวหน้าคอยสั่งการ ซึ่งก่อเหตุลักพาตัวนักธุรกิจไปเรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงินประมาณ 3,000,000 USD. หรือประมาณ 100,000,000 บาท ทั้งยังก่อเหตุฆาตกรรมมาแล้วจำนวน 2 ราย และก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ ได้รับการประสานงานจากตำรวจสากล สาธารณรัฐโมซัมบิก ต้องการจับกุมตัว นาย Momade Assif Abdul SATAR สัญชาติโมซัมบิก ผู้ต้องหารายสำคัญในฐานความผิดครอบครองอาวุธ ฆาตกรรม และลักพาตัว จึงได้ร้องขอและส่งขอมูลไปยัง FBI ประจำภูมิภาคแอฟริกาให้ประสานงานไปยัง FBI ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ให้ได้

...

จนกระทั่ง FBI ประจำประเทศไทยได้รับข้อมูลดังกล่าว จึงได้ติดต่อประสานงานมายังกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และทางการสหรัฐอเมริกาประสานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหาชื่อ Momade Assif Abdul SATAR สัญชาติโมซัมบิก ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของทางการโมซัมบิก โดยได้มีหมายแดง (Red Notice) ของ INTERPOL เป็นที่ต้องการตัวในฐานความผิดครอบครองอาวุธ ฆาตกรรม และลักพาตัว จึงได้ทำการสืบสวนเพื่อตรวจสอบและติดตามตัว

จากการตรวจสอบพบว่า ได้เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยใช้หนังสือเดินทางเลขที่ 13AF010264 ระบุในหนังสือเดินทางชื่อ MR.SAHIME MOHAMMAD ASLAM จึงดำเนินการสืบสวนติดตามตัวอย่างต่อเนื่อง


​จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 61 เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 นำโดย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานน์ รองผู้บังคับการ 191 พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สารวัตรสายตรวจ 1 และ พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว , เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้สืบสวนติดตามตัวจนทราบว่ามีชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับ MR.Momade Assif Abdul SATAR ปรากฏตัวอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมมาริออท ซ.สุขุมวิท 57 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ซึ่งชายดังกล่าวไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวและพิมพ์ลายนิ้วมือชายดังกล่าวแล้วส่งไปตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับลายพิมพ์นิ้วมือตามหมายแดง (Red Notice) ของ INTERPOL ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานกลางได้ตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว และลงความคิดว่าลายพิมพ์นิ้วมือของชายดังกล่าวนั้นเป็นบุคคลคนเดียวกันตามหมายแดง (Red Notice) ของ INTERPOL ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำเข้าลักษณะเป็นบุคคลต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 

...


​ทั้งนี้ทางการโมซัมบิกได้ยืนยันว่าระหว่างที่ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศในระยะเวลาประมาณ 3 ปี ยังได้มีการสั่งการให้องค์กรของตนดำเนินการลักพาตัวและเรียกค่าไถ่บุคคลต่างๆ ทั้งในประเทศโมซัมบิกและอีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา และยังแจ้งอีกว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นระดับหัวหน้าขององค์กร จะสั่งการให้ลูกน้องไปลักพาตัวนักธุรกิจที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศโมซัมบิกเพื่อไปเรียกค่าไถ่

แต่ละครั้งจะเรียกค่าไถ่เป็นเงินประมาณ 3,000,000 USD. หรือประมาณ 100,000,000 บาท ซึ่งถ้าไม่ได้รับเงินก็จะดำเนินการฆาตกรรมเหยื่อ โดยมีเหยื่อถูกฆาตกรรมไปแล้วจำนวน 2 ราย อีกทั้งยังได้มีการทำร้ายและฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ของทางการโมซัมบิกและครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่ทำการสืบสวนเอาผิดกับองค์กรนี้ ทำให้เป็นที่หวาดกลัวของเจ้าหน้าที่รวมถึงประชาชนเป็นอย่างมาก.

...