หมอเตือน คนชอบใช้มือบ่อยๆ ทำงานคอมพิวเตอร์ เขียนหนังสือ เย็บปักถักร้อย ใช้ข้อมือสะเทือน เสี่ยงเป็นโรคกดทับเส้นประสาทข้อมือ แนะหาผ้านุ่มๆ ฟองน้ำรองข้อมือ และพักมือเป็นระยะ...
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2561 นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวถึงอาการโรคกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ ว่า โรคดังกล่าวจะมีอาการชา ปวดเหน็บ ปวดแสบปวดร้อนบริเวณฝ่ามือกับนิ้วมือ โดยเฉพาะนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ และอาจรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตที่นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางเป็นบางครั้ง โดยมักมีอาการตอนกลางคืน หรือหลังตื่นนอน เมื่อได้ขยับ หรือสะบัดมือจะรู้สึกดีขึ้น โดยอาการจะชัดเจนมากขึ้นหลังจากทำงานที่ต้องเคลื่อนไหวข้อมือ หรือใช้ข้อมือหยิบจับถือสิ่งของเป็นเวลานาน หรือมีอาการอ่อนแรงของมือและนิ้วมือ โดยเกิดจากพังผืดที่หนาตัวบริเวณข้อมือทางด้านฝ่ามือ แล้วกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดการอักเสบ เมื่อมีการใช้งานบริเวณข้อมือเป็นเวลานาน
โฆษกกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับโรคนี้พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ในช่วงอายุ 35-40 ปี เพราะเป็นวัยทำงานมีการใช้ข้อมือและมือซ้ำๆ กันเป็นเวลานาน เช่น คนพิมพ์งานคอมพิวเตอร์ เพราะต้องวางข้อมือลงกับโต๊ะที่เป็นของแข็ง คนที่เขียนหนังสือ งานเย็บปักถักร้อย หรือใช้เครื่องมือที่สั่นสะเทือนต่อข้อมือบ่อยๆ เช่น ช่างเจาะถนน การทำงานที่กระดกข้อมือซ้ำๆ กัน เช่น แม่ค้า แม่บ้าน คนซักผ้า นอกจากนี้ ยังพบว่าโรคดังกล่าวสามารถเกิดร่วมกับภาวะต่างๆ เช่น สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคไทรอยด์ รวมถึงผู้ป่วยกระดูกหัก หรือเคลื่อนบริเวณข้อมือ
...
ด้าน นพ.สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผอ.โรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า การรักษาโรคกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ การรักษาโดยไม่ผ่าตัด ใช้เฝือกอ่อนดามข้อมือ ทานยาแก้ปวดแก้อักเสบ ฉีดยาสเตียรอยด์ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ใช้ข้อมือเพื่อลดการอักเสบของข้อมือ และการรักษาด้วยการผ่าตัด จะทำเมื่อการรักษาด้วยยาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ผล หรือผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงกล้ามเนื้อฝ่อ
ผอ.โรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวด้วยว่า สำหรับการป้องกัน สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประวัน การใช้งานมือและข้อมือด้วยความระมัดระวัง เช่น ใช้ปากกาที่จับเขียนได้สะดวก คนที่พิมพ์งานคอมพิวเตอร์ควรกดแป้นพิมพ์เบาๆ พร้อมทั้งแผ่นเจล ผ้านุ่มๆหรือฟองน้ำสำหรับรองข้อมือขณะพิมพ์ เพื่อลดการเสียดสีและลดการกระตุ้นเส้นเอ็นไม่ให้ตึงตัว พักมือเป็นระยะ โดยยืด ดัด และหมุนมือกับข้อมือควรปรับท่าทางของร่างกายโดยไม่ห่อไหล่ไปข้างหน้า หลีกเลี่ยงการนอนทับมือ หากสวมเฝือกข้อมือควรสวมเฝือกที่ไม่คับจนเกินไป และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ.