ทั้งอาหารเสริม-เครื่องสำอาง ไม่ได้มาตรฐานโอ้อวดเกินจริง สันธนะห้าวไล่ศูนย์ตร.กระเจิง
“สันธนะ ประยูรรัตน์” ฉุนขาด จวกยับชุดปฏิบัติการ ตรวจค้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเครื่องสำอางไม่ได้ มาตรฐาน ในตลาดใหม่ดอนเมือง พร้อมขอเคลียร์กับ “วิระชัย ทรงเมตตา” รอง ผบ.ตร. ก่อนให้ย้ายศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าออกนอกพื้นที่ทันที อ้างเหตุเป็นที่ส่วนบุคคล ขณะที่ กสทช.เรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมถอนโฆษณาสินค้าไม่ได้มาตรฐานออกพร้อมเอาผิดตามกฎหมาย เผยเกิดเหตุสลดสาวกินยาลดอ้วนสังเวยชีวิตอีก 1 ศพ ในพื้นที่ สน.โคกคราม ตำรวจระบุเป็นเพราะผู้ตายต้องการรูปร่างผอมเพื่อให้มีคนมาจ้างงานออกบูธอีก หลังตกงานมานาน
กรณี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. สนธิกำลังตำรวจหลายหน่วยงาน เข้าตรวจค้นร้านค้าประมาณ 200 ร้าน ที่ตลาดใหม่ดอนเมือง พื้นที่ สน. ดอนเมือง เน้นการตรวจสอบอาหารเสริมว่ามีการจดเลข อย.หรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบเครื่องสำอาง ว่ามีเลขจดแจ้งหรือไม่ หากพบว่าเลขไม่ตรงกับที่จดแจ้ง หรือไม่มีเลข อย. จะเข้าตรวจยึดจับกุมได้ทันที จากการตรวจค้น 5 จุดใหญ่ พบครีมและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอางต่างๆ ที่ไม่ได้รับมาตรฐานและไม่มีการจดแจ้งเลข อย. จำนวนมาก มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ก่อนตรวจยึดไว้เป็นของกลาง เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ถึงส่วนผสมว่ามีสารแปลกปลอมหรือสารที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคหรือไม่ เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
ความคืบหน้า ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ภายในตลาดใหม่ดอนเมือง ถนนเชิดวุฒากาศ เขตดอนเมือง เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดช่วงเช้ามีการระดมกำลังตำรวจเตรียมตรวจค้นร้านค้าภายในตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยผู้ประกอบการบางส่วนยินยอมให้ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในร้าน ส่วนที่ไม่ยอมให้ตรวจค้น ตำรวจอยู่ระหว่างขอหมายค้นจากศาล ระหว่างนั้น พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาล อ้างตัวเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมการตลาดใหม่ดอนเมือง เดินทางมาเจรจากับ พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.สก. ฐานะหัวหน้า ศปก.ตลาดเมืองใหม่ดอนเมือง ด้วยท่าทีฉุนเฉียว เพื่อขอพูดคุยกับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ที่นำกำลังตรวจค้นร้านค้าเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ก่อนจะชี้แจงว่าที่ตั้งของกองอำนวยการสืบสวน ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า เป็นพื้นที่ส่วน บุคคล ตำรวจไม่สามารถเข้ามาตั้งได้ พร้อมสั่งให้เก็บข้าวของออกจากพื้นที่ทันที
...
หลังการเจรจา พ.ต.ท.สันธนะกล่าวว่า ไม่ทราบว่าภายในร้านค้ามีการขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย เพราะตนไม่เคยเข้ามาที่ตลาด ยืนยันไม่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการค้าขายสินค้าผิดกฎหมาย ก่อนหน้านี้ให้ความร่วมมือตำรวจตรวจค้นร้านค้ามาตลอด ตลอดอาชีพการทำงานของตนนั้นรุนแรงในเรื่องของกระสุนปืน ไม่ใช่กระปุกครีม
ขณะที่ พล.ต.ต.นราเดชกล่าวว่า ยังยืนยันให้ชุดปฏิบัติการทำหน้าที่ตรวจค้นต่อ โดยมีหมายค้นถูกต้องตามหลักปฏิบัติ พร้อมสั่งให้เคลื่อนย้ายศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าไปตั้งอยู่ที่หลัง สน.ดอนเมือง เพื่อเลี่ยงปัญหาข้อกฎหมาย
กระทั่งเวลา 14.00 น. หลังการตรวจค้นตำรวจนำเจ้าของร้านพร้อมของกลางจำนวนมากขึ้นรถสองแถว รถตู้ และรถบรรทุกสิบล้อ รวม 7 คัน เพื่อนำไปตรวจคัดแยกทำบันทึกจับกุมที่สโมสรตำรวจ ท่ามกลางการคุ้มกันของตำรวจจากกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน
ที่ สน.ดอนเมือง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. แถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า หลัง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ร่วมกันนำกำลังตำรวจ บช.ทท. บก.น.2 และ บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่อย. เข้าตรวจค้นร้านค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง พบมีร้านค้ากระทำความผิดถึง 90 เปอร์เซ็นต์ สามารถตรวจยึดของกลางจำนวนมาก ส่วนวันนี้ยังคงต้องเข้าตรวจสอบอีกหลายร้าน มีผู้ประกอบการทั้งสิ้น 60 ร้าน ยินยอมให้ตรวจสอบ ทั้งนี้ จะใช้วิธีให้คำแนะนำ ตักเตือน ควบคู่ไปกับการใช้ข้อกฎหมาย ไม่ได้มองเป็นโจรผู้ร้าย คาดว่าจะไม่เกินวันที่ 4 พ.ค. จะสามารถจบการทำงานได้ ส่วนกรณี พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ เข้าร้องเรียนให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของการนำกำลังเข้าตรวจค้นร้านค้าในตลาดใหม่ดอนเมืองนั้น ยืนยันการตรวจค้นครั้งนี้ใช้หมายค้น ส่วนบางร้านที่ไม่มีหมายค้นนั้นเพราะได้รับความยินยอมจากเจ้าของร้านให้เข้าตรวจสอบ สำหรับประเด็นที่ พ.ต.ท.สันธนะ ระบุมีหลักฐานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและขอเก็บเงินจากร้านค้าเพื่อแลกกับการไม่ถูกจับกุม ยังไม่ทราบ แต่หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เรียกรับประโยชน์ จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ 1 ในคณะกรรมการ กสทช. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ เพื่อหาแนวทางระงับการออกอากาศผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางที่ไม่ผ่าน อย. และไม่ได้รับอนุญาตโฆษณาออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์
หลังการประชุมนายฐากรกล่าวว่า หลังการหารือร่วมกันครั้งนี้ กสทช. และ อย. จะเร่งรัดการยุติการออกอากาศโฆษณาสินค้าดังกล่าวด้วยการลดขั้นตอนเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่ อย. มาประจำการที่ศูนย์ตรวจสอบเนื้อหาวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ ที่ กสทช. เพื่อตรวจสอบโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่อง สำอางที่ไม่ผ่าน อย. และไม่ได้รับอนุญาตโฆษณาผ่านสถานีโทรทัศน์ หากพบว่ามีโฆษณาใดที่ผิดกฎหมาย อย.จะทำหนังสือแจ้งมาเพื่อให้เลขาฯกสทช. มีคำสั่งระงับโฆษณานั้นเป็นการชั่วคราวทันที ก่อนนำโฆษณาชิ้นนั้นส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาการกระทำอันเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ และ กสทช. ตามลำดับ จนกว่าผลการพิจารณาจะเป็นข้อยุติ หากพบเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 ข้อ 5 (2) ระบุว่าการออกอากาศรายการหรือการโฆษณาที่มีเนื้อหาสาระในลักษณะเป็นการจูงใจให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการหรือสินค้าโดยหลอกลวง หรือกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับบริการหรือสินค้านั้น หรือโดยการใช้หรืออ้างอิงรายงานทางวิชาการ สถิติ หรือข้อมูลอันไม่เป็นความจริงหรือเกินความจริง มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท และหากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับวันละ 100,000 บาท
...
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประชุมทางไกลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ โดย นพ. วันชัยกล่าวว่า การประชุมคอนเฟอเรนซ์ในครั้งนี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภูมิภาคในการสะท้อนว่าจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอาง ทันหรือไม่ เมื่อมีการประกาศใช้กฎ สธ. ที่จะประกาศใช้ในเดือน มิ.ย.นี้ และมีการกำหนดให้ สสจ.ทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจโรงงานผลิตเครื่องสำอางให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน คาดมีโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ขึ้นทะเบียน 1-2 หมื่นราย
นพ.วันชัยยังชี้แจงข้อกังวลจะมีการสวมทะเบียน โรงงานเหมือนสวมเลข อย.ด้วยว่า ขั้นตอนการจดแจ้งต้องมีการระบุสถานที่ผลิต หากมีการสวมจริงก็จะทราบ เพราะ อย.มีเจ้าหน้าที่โทร.ไปตรวจสอบซ้ำอยู่แล้ว ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลิตที่โรงงานนั้นจริงหรือไม่ สำหรับพื้นที่ที่มีการกำชับและเป็นห่วงเป็นพิเศษคือบริเวณพื้นที่ปริมณฑล อาทิ จ.นครปฐม จ.สมุทรปราการ จ.ปทุมธานี เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตจำนวนมาก จึงต้องให้มีการตรวจตราอย่างละเอียดรอบคอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เกิดเหตุสลดหญิงกินยาลดความอ้วนดับอีก 1 ราย เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. ร.ต.อ.จิราเมธ จุลพิภพ พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตผิดธรรมชาติภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในซอยนวมินทร์ 86 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.สส.น.2 พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สน.โคกคราม แพทย์นิติเวชฯและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
...
ที่เกิดเหตุประตูห้องถูกล็อกจากภายใน ต้องให้ช่างกุญแจเข้ามาเปิด ภายในห้องพบศพ น.ส.บุษยา การุญ อายุ 27 ปี นอนเสียชีวิตสภาพเปลือย อยู่บนเตียงนอน ผิวหนังเริ่มลอก คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 7 วัน ตรวจสอบโดยรอบไม่มีการรื้อค้นทรัพย์สิน ใกล้เคียงพบถุงบรรจุยาบางชนิดตกอยู่ ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนเบื้องต้นพบก่อนเสียชีวิตผู้ตายทำงานเป็นฟรีแลนซ์ออกบูธรับงานทั่วไป ช่วงหลังป่วยด้วยโรคซึมเศร้า ตั้งแต่แม่เสียชีวิตไป ประกอบกับตกงานและเก็บตัวอยู่แต่ภายในห้องพัก จนถูกตัดไฟตั้งแต่กลางเดือน เม.ย.
ขณะที่ พล.ต.ต.สมพงษ์ระบุว่า ผู้ตายเป็นคนรูปร่างใหญ่ แต่ปัจจุบันกลับตัวเล็กลง เนื่องจากกินยาลดความอ้วน ทั้งนี้เจ้าตัวเคยเล่าให้แม่บ้านคอนโดฯฟังว่าที่กินยาลดความอ้วน เพราะต้องการให้รูปร่างผอมเพรียว มีผู้มาจ้างงานอีก สอดคล้องกับที่ญาติผู้ตายให้ข้อมูล ส่วนยาที่พบหลายเม็ดภายในห้องนั้นจะเป็นยาลดความอ้วนหรือไม่ ต้องส่งให้กองวิทยาศาสตร์ การแพทย์ตรวจสอบยืนยันอีกครั้ง