อธิบดีกรมราชทัณฑ์ไล่ออก 5 ผู้คุม ผิดวินัย พร้อมเร่งเดินหน้าพัฒนาระบบ ลงวินัยคนผิด มีทั้งทุจริตเบิกจ่ายเงินร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังไม่ถูกต้อง โอนเงินผู้ต้องขังเข้าบัญชีผู้คุม ไปถึงขาดราชการเกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุผล
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 เม.ย. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ วันนี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการราชทัณฑ์ ครั้งที่ 2/2561 ที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อพิจารณาร่างกฎกระทรวงออกตามความใน พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เรื่องการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ลดวันต้องโทษ และการคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดที่จะสั่งออกไปทำงานสาธารณะ โดยจากการประชุมดังกล่าว ได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อเรียกระดับชั้นนักโทษเด็ดขาดจากชั้นเลว ให้เปลี่ยนเป็น ชั้นต้องปรับปรุง ส่วนนักโทษชั้นเลวมากเป็น ชั้นต้องปรับปรุงมาก เพื่อไม่เป็นการตอกย้ำความผิดของผู้ต้องขัง คาดสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติให้ผู้ต้องขังสามารถกลับมาเป็นคนดีของสังคมได้เมื่อภายหลังพ้นโทษ
"นอกจากนี้กรมราชทัณฑ์ยังจัดการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กรมราชทัณฑ์ ครั้งที่ 2/2561 ขึ้น โดยมีมติพิจารณาลงโทษข้าราชการกรณีกรมราชทัณฑ์ หรือผู้คุม ที่กระทำผิดวินัย โดยมีมติให้ไล่ออก 5 ราย ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำผิด ได้แก่ 1.เบิกจ่ายเงินร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังไม่ถูกต้อง เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ 2.ตรวจพบโทรศัพท์มือถือ เมื่อตรวจสอบขยายผล ปรากฏมีข้อมูลเชื่อมโยงส่งข้อความและการโอนเงินเข้าบัญชีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3.ทุจริตยักยอกเงินฝากผู้ต้องขังไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว 4-5.อีก 2 ราย ละทิ้งหน้าที่ติดต่อในคราวเดียวกันเกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร การลงโทษทางวินัยดังกล่าวก็เพื่อมิให้เป็นแบบอย่างกับข้าราชการอื่นๆ ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมภายนอกในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ" พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าว
...
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า สำหรับกรณี นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องขังอดีตบรรณาธิการนิตยสาร วอยซ์ออฟทักษิณ และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่ถูกดำเนินคดี หมิ่น พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. โทษ 1 ปี และคดี ม.112 โทษ 6 ปี รวมศาลสั่งจำคุก 7 ปี หลังถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2554
ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกไปเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้ววิพากษ์วิจารณ์นโยบายผ้า 3 ผืน ซึ่งขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนหลังออกจากเรือนจำนั้น เรื่องดังกล่าวขอชี้แจงว่า กรมราชทัณฑ์กำลังเร่งปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ภายในเรือนจำให้ดีขึ้น และให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพอนามัยและการรักษาพยาบาลผู้ต้องขังเป็นพิเศษ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการของบกลาง เพื่อจัดซื้อที่นอนยางพาราให้ผู้ต้องขังแทนผ้าห่มปูนอนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน.