อีกไม่กี่วัน ได้เวลาคณะกรรมการวัตถุอันตราย ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย จะได้พิจารณา สมควรยกเลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด พาราควอต, ไกลโฟเสต และคลอร์ไพริฟอส หรือไม่...ตามคำร้องขอของคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง
ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประชุมหาข้อสรุปมาตั้งแต่มกราคม 61...แต่ที่ผ่านมาทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน แทนที่จะนำข้อมูลมาหาข้อสรุปร่วมกัน ต่างฝ่ายต่างเอาดีใส่ตัวโยนบาปให้อีกฝ่าย มิต่างสงครามกีฬาสีการเมือง...จนทำสังคมสับสนไปทั่ว
วันนี้ขอนำข้อขัดแย้งระคนสงสัยบางส่วนมาให้คนไทยช่วยกันพิจารณาด้วยเหตุและผล
ขอเริ่มที่นักวิชาการฝ่ายสนับสนุนไม่ให้ใช้สารเคมี ให้ข้อมูลผ่านสื่อ ตั้งข้อสงสัยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่อ้างว่า “ยาฆ่าหญ้า” ไม่มีหลักฐานว่าอันตรายต่อมนุษย์...เพราะเพียงนักวิชาการท่านนี้ใช้เวลาค้นข้อมูลไม่เท่าไร พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ทางการแพทย์มากมาย ที่ระบุว่า ก่อให้เกิดโรคพาร์กินสัน โรคสมองเสื่อม และอาจจะเกี่ยวพันกับโรคมะเร็ง
แค่คำว่า อาจจะ พอจะตีความได้ไหม ยังไม่ใช่สารก่อมะเร็ง ยังอยู่ในขั้นมโนรอการพิสูจน์...ส่วนที่อ้างว่าค้นข้อมูลไม่นาน พบข้อมูลมากมาย คงหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เลยเกิดคำถามข้อมูลในโลกโซเชียลเชื่อได้แค่ไหน
ที่บอกว่า ก่อให้เกิดโรคพาร์กินสัน อีกฝ่ายให้ข้อมูล พาราควอตเดี่ยวๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดโรคพาร์กินสัน แต่ถ้าหากนำไปใช้ร่วมกับสารกำจัดเชื้อรา ฉีดพ่นพร้อมกัน จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคได้...แค่เสี่ยงไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโรคได้กันทุกคน
ที่สำคัญข้อเขียนในตอนเกือบท้ายๆของนักวิชาการต้านสารเคมีเกษตร กลับยอมรับเสียเอง การศึกษาในต่างประเทศ ยังอยู่ระหว่างหาข้อสรุปชัดเจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างยาฆ่าหญ้ากับการเกิดโรคพาร์กินสัน...สรุปแล้ว ยังไม่ได้ข้อสรุป
...
เลยเป็นงง ที่ให้ข้อมูลเป็นตุเป็นตะ ยกแม่น้ำทั้ง 5 มาให้เกิดความสับสนเพื่ออะไรกัน.
สะ–เล–เต