สิ้น “ระพี สาคริก” บิดาแห่งกล้วยไม้ไทยหลังป่วยด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด แต่รักษาตัว จนดีขึ้นแล้วกลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน กระทั่งสิ้นลมอย่างสงบ ในวัย 95 ปี ด้านรักษาราชการแทนอธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์ ระบุ ชาวเกษตรศาสตร์ต่างเศร้าเสียใจต่อการจากไปของอดีตอธิการบดี ผู้เป็นที่รักและเคารพยิ่ง ยกย่องท่านเป็นตัวอย่างของความเป็นครู และเป็นต้นแบบของการนำความรู้ทางเกษตรลงถึงชุมชน เล็งถ่ายทอดจิตวิญญาณความเป็นครูให้อาจารย์รุ่นใหม่ตระหนักถึงหน้าที่ พร้อมเดินหน้านำศาสตร์ด้านเกษตรถ่ายทอดสู่ชุมชนตามที่ ศ.ระพีตั้งใจไว้

วงการกล้วยไม้เศร้า หลังทราบข่าวการจากไปอย่างสงบของ ศ.ระพี สาคริก ที่ได้ชื่อว่า “บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย” โดยเมื่อวันที่ 17 ก.พ. เวลา 07.00 น. ครอบครัว ศ.ระพี สาคริก ปราชญ์แห่งแผ่นดินบิดาแห่งกล้วยไม้ไทย แจ้งว่า ศ.ระพีเสียชีวิตแล้วที่บ้านพัก ย่านงามวงศ์วาน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ ประมาณ 6 เดือน ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่ออาการดีขึ้น ก็กลับมาพักผ่อนที่บ้าน หลังจากนั้นไม่นานก็สิ้น ลมอย่างสงบ ในวัย 95 ปี โดยทางครอบครัวได้นำร่าง ศ.ระพีไปเก็บไว้ที่ รพ.วิภาวดี เพื่อเตรียมนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ในวันที่ 19 ก.พ.นี้

...

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายจงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ชาวมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์รู้สึกเสียใจต่อการจากไปของ ศ.ระพี สาคริก ซึ่งเป็นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัย และเป็นบุคคลที่ชาวเกษตรศาสตร์ให้ความรักและเคารพอย่างมาก โดยชาวเกษตรศาสตร์ส่วนใหญ่จะเรียกท่านว่าคุณพ่อระพี หลังจากนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะรวบรวมองค์ความรู้ที่คุณพ่อระพีได้ทำไว้ โดยเฉพาะความรู้เรื่องกล้วยไม้ มาเผยแพร่ต่อให้นิสิต อาจารย์ และบุคคลทั่วไปได้เรียนรู้ ขณะเดียวกันในสมัยที่คุณพ่อระพีดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทุ่มเทการทำงานให้มหา-วิทยาลัยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะท่านเป็นตัวอย่างของความเป็นครู มีความรักนิสิต ท่านออกค่ายพร้อมนิสิตหลายครั้ง และเป็นต้นแบบของการนำความรู้ด้านเกษตรศาสตร์ลงถึงชุมชน มหาวิทยาลัยจะพยายาม ถ่ายทอดจิตวิญญาณความเป็นครูของคุณพ่อระพีให้อาจารย์รุ่นใหม่ของมหาวิทยาลัยได้ตระหนักถึงหน้าที่ของครูอาจารย์ ขณะเดียวกัน เราก็มีหลักสูตรศาสตร์แห่งแผ่นดิน ซึ่งเป็นหลักสูตรที่หลอมรวมศาสตร์ด้านเกษตรทุกเรื่อง ปรับให้เข้ากับยุคปัจจุบัน และนำสู่ชุมชนตามที่คุณพ่อระพีตั้งใจไว้

สำหรับประวัติ ศ.ระพี เกิดที่วรจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรชายคนโตของขุนตำรวจเอก พระมหาเทพกษัตรสมุห (เนื่อง สาคริก) และคุณแม่สนิท ภมรสูตร ภรรยาชื่อ นางกัลยา มนตริวัต มีบุตรธิดา 4 คน ด้านการศึกษา เริ่มต้นการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนสามเสนวิทยาคาร และจากนั้นได้ย้ายโรงเรียนอีกหลายแห่ง ตั้งแต่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนจิตรลดา โรงเรียนนาฏศิลป์ โรงเรียนวัดเบญจมบพิตรฯลฯ จากนั้นเข้าศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาปฐพีวิทยา ม.เกษตรศาสตร์ รุ่นที่ 2 ในปี 2490 และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานวัตกรรมเกษตร จากม.รังสิต ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558 เริ่มชีวิต การทำงานด้วยการเป็นอาจารย์สอนที่แม่โจ้ และ ม.เกษตรศาสตร์ และมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี จนได้รับตำแหน่งอธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์ ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมกล้วยไม้แห่งประเทศไทย และเป็นนายกสมาคมกล้วยไม้ฯ คนแรก อุปนายกกิตติมศักดิ์สมาคมกล้วยไม้แห่งอเมริกา กรรมการกิตติมศักดิ์องค์การกล้วยไม้โลก นอกจากนี้ ศ.ระพี สาคริก ยังเคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ปี 2522

ศ.ระพีมีผลงานการค้นคว้าและส่งเสริมกล้วยไม้ ทั้งในด้านการปรับปรุงพันธุ์ ขยายพันธุ์ ตลอดจนด้านธุรกิจการส่งออก ทำให้กล้วยไม้ไทยกลายเป็นสินค้าส่งออกด้านเกษตรที่สำคัญชนิดหนึ่งของประเทศ ด้วยเหตุนี้ ศ.ระพี สาคริก จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาเกษตรศาสตร์ เมื่อปี 2511 นอกจากนี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ในปี 2513 ได้รับการยกย่องเป็น “บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย” “ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน” และ “ปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญาและมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย” ในปี 2552 ฯลฯ