สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เจ๋ง! รุกคืบนำเทคโนโลยียกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ระบบรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายผ่านแอปพลิเคชัน Police i lert u เข้ากับโครงการ Taxi OK กรมการขนส่งทางบก
พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ สารวัตรอำนวยการกองกำกับการศูนย์รวมข่าวกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ อธิบายการทำงานของแอปพลิเคชัน Police i lert u ในการเชื่อมต่อกับระบบของ Taxi OK ให้กับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก, เจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง, และสื่อมวลชน
ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้เปิดโครงการ Taxi OK เป็นการนำเทคโนโลยีและแอปพลิเคชัน Taxi OK มายกระดับการให้บริการประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือให้หน่วยงานรัฐนำเทคโนโลยีมายกระดับการให้บริการประชาชน ในการนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตามนโยบาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
...
โดยได้มีการประสานงานให้มีการเชื่อมโยงแอปพลิเคชัน Police i lert u กับโครงการ Taxi OK ซึ่งประชาชนที่ใช้บริการรถแท็กซี่หากมีเหตุด่วนเหตุร้าย หรือเหตุขอความช่วยเหลือ จะสามารถกดปุ่ม SOS ซึ่งติดตั้งอยู่ในตัวรถ หรือกดปุ่มฉุกเฉินผ่านแอปพลิเคชัน Taxi OK หรือจะกดปุ่มฉุกเฉินขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน Police i lert u โดยตรงก็ได้ นอกจากนี้แล้วการเชื่อมโยงแอปพลิเคชันดังกล่าวถือเป็นการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก
เนื่องจากในรถแท็กซี่ทุกคันตามโครงการจะได้มีการติดกล้องรวมถึงอุปกรณ์ GPS และเชื่อมโยงถึงตำรวจได้โดยทันที ทำให้ไม่ว่าจะเป็นกรณีผู้ขับขี่รถโดยสารแท็กซี่คิดจะก่อเหตุ หรือผู้โดยสารคิดจะก่อเหตุ ก็จะล้มเลิกความตั้งใจ เนื่องจากในรถมีการติดกล้องและอุปกรณ์ติดตาม รวมถึงทราบว่าตำรวจจะสามารถสกัดจับและเข้าถึงที่เกิดเหตุได้โดยทันที เป็นการป้องปรามอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงกรณีหากมีการเกิดเหตุจริง
ทั้งศูนย์ GPS ของกรมการขนส่งทางบกและรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ก็จะสามารถรับรู้ข้อมูลการการแจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือในทันที และสามารถเข้าช่วยเหลือ สามารถทราบชื่อข้อมูลผู้ขับขี่ ทะเบียนรถที่ขอความช่วยเหลือ รวมถึงทราบถึงข้อมูลของผู้โดยสารได้ทันทีในกรณีเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน
ถือได้ว่านี่คือการสร้างชุมชนเครือข่ายการป้องกันอาชญากรรมโดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นจุดศูนย์กลาง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมให้กับประชาชนบนโลกดิจิตอล.
