ตำรวจกองปราบฯ นำกำลังจับกุม 2 ผู้ต้องหาชายหญิง หลอกผู้ประกอบการรถขนส่งร่วมลงทุน สุดท้ายเชิดเงินหนี เสียหายกว่า 10 ล้านบาท พบมีคดีติดตัวจำนวนมาก ครอบครองรถร่วม 100 คัน จากการเช่าแล้วนำไปให้คนจำนำต่อ

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 60 ที่กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมชุดปฏิบัติการ 1-1 กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายวัชรชัย เชษฐราช อายุ 40 ปี ชาวบุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง จ.504/2560 ลงวันที่ 19 กันยายน 2560 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ น.ส.กัญญาพัชร ราชวัตร์ อายุ 33 ปี ชาวบุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ จ.505/2560 ลงวันที่ 19 กันยายน 2560 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, หมายจับ พ.ร.บ.เช็ค ของศาลจังหวัดมีนบุรีอีก 5 หมาย จับได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ม.3 ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา

พ.ต.ต.ณัฐพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนตุลาคม 2560 กลุ่มผู้ประกอบการรถขนส่ง 17 ราย มาร้องทุกข์ว่า มีผู้ต้องหาเปิดบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด วัชรมั่งมี ทรานสปอร์ต จำกัด หลอกเหยื่อด้วยการประกาศในเฟซบุ๊ก และเพจต่างๆ ชักชวนให้ผู้ประกอบการมาร่วมลงทุน นำรถขนส่งมาร่วมรับจ้างงานจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ หรือนำเงินมาร่วมลงทุนในการว่าจ้างรถขนส่งมาทำงานให้บริษัทที่น่าเชื่อถือต่างๆ มีผลกำไรตอบแทนสูง

โดยจะพาผู้เสียหายไปติดต่อกับบริษัทที่น่าเชื่อถือ เพื่อหลอกให้เชื่อว่าได้รับการว่าจ้างขนส่งจากบริษัทดังกล่าว หลังจากนั้นจะพาเหยื่อไปดูบริษัทของตัวเองที่เปิดไว้ พร้อมทั้งแสดงบัญชีธนาคารให้ดูว่ามีเงินเข้าออกบัญชีจำนวนมาก จนเหยื่อปักใจเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุน เมื่อครบกำหนดจ่ายผลตอบแทนกลับบ่ายเบี่ยง อ้างว่าอยู่ระหว่างรอรับเงินจาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ (SME) ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจ จนสุดท้ายไม่สามารติดต่อได้ ทำให้ผู้เสียหายสูญเสียทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในหลายฐานความผิด และหลายท้องที่เกิดเหตุต่อเนื่องกัน 

...

กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 8 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายวัชรชัย และ น.ส.กัญญาพัชร ผู้ต้องหา หลบหนีมาพักอาศัยที่บ้านดังกล่าว จึงได้จับกุมทั้งคู่ เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และรับว่าเคยมีประวัติต้องคดีอาญา 15 คดี และมีหมายจับรวมกัน 8 คดี นอกจากนี้ ยังเคยถูกศาลจังหวัดบุรีรัมย์ พิพากษาจำคุก 1 ปี 7 เดือน ในคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และ พ.ร.บ.เช็ค ของ สภ.เมืองบุรีรัมย์

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ยังพบว่า นายวัชรชัย มีรถในความครอบครองร่วม 100 คัน และมีพฤติการณ์เช่าซื้อรถในชื่อของบุคคลอื่น และนำไปจำนำต่ออีกหลายทอด ทั้งนี้ พบว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายได้รวมกลุ่มกันเดินทางเข้าแจ้งความอีกหลายท้องที่ด้วย.