เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย กทม.ได้ตรวจสถานที่สะสมหรือเก็บอาหาร ประเภทซุปเปอร์มาร์เก็ตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 จำนวน 234 แห่ง เพื่อมอบป้ายรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร พบว่ามีซุปเปอร์มาร์เก็ตผ่านเกณฑ์มาตรฐานและได้รับป้ายรับรองจำนวน 188 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 80.34 ไม่ผ่านมาตรฐานจำนวน 46 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 19.66
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการประเมินระบุว่ามีสิ่งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตต้องพัฒนา ได้แก่ 1.ตู้แช่เย็นหรือตู้แช่แข็ง/ห้องแช่เย็นหรือห้องแช่แข็ง ต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอ และมีตารางบันทึกอุณหภูมิที่สามารถตรวจสอบได้ 2. ขนมอบ หรือเบเกอรี่ ที่ไม่ได้บรรจุในถุงหรือกล่อง ต้องวางจำหน่ายในตู้ที่มีการปกปิดอย่างมิดชิด 3.การติดป้ายแสดงบริเวณการแยกเก็บอาหารหรือสินค้าที่หมดอายุ หรือชํารุดที่รอการเก็บกลับคืน 4.ผู้สัมผัสอาหารต้องมีสุขภาพแข็งแรง โดยต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่เป็นโรคติดต่อหรือโรคที่สังคมรังเกียจ หรือไม่เป็นพาหะนําโรคติดต่อ และ 5.การจัดให้มีคําเตือนผู้บริโภคเพื่อป้องกันการหยิบจับอาหารด้วยมือ.