จัดเตรียมพื้นที่ไว้รับเสด็จร.10 ทรงประกอบพิธี
สำนักพระราชวังแจ้งปิดพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท หลังครบกำหนด การเปิดให้พสกนิกรเข้าถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเวลาเที่ยงคืนวันที่ 5 ต.ค. เพื่อจัดเตรียมพื้นที่รับเสด็จฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันครบรอบ 1 ปี การเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันที่ 13-14 ต.ค.นี้ ต่อด้วยมีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และให้ข้าราชการ ข้าราชบริพารทั่วประเทศ เข้าบำเพ็ญกุศลและถวายสักการะพระบรมศพ ด้าน “ออมสิน” ชี้แจงการอำนวยความสะดวกและดูแลประชาชน ช่วง 25-29 ต.ค. ปิดการจราจรโดยรอบสนามหลวง ห้ามจอดรถทุกชนิด คาดมีคนเข้าในพื้นที่กว่า 2.5 แสนคน ขอความร่วมมือคนที่จะมา ให้นำอาหาร น้ำดื่ม และยาประจำตัวมาด้วย ที่สำคัญอย่าลืมพกบัตรประชาชน
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. นับเป็นวันที่ 357 ของการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และถือเป็นการนับถอยหลังก่อนสิ้นสุดการเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระ บรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรม มหาราชวัง ในเวลาเที่ยงคืนวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ตลอดวันจะมีฝนตกลงมาไม่ขาดระยะ แต่พสกนิกรยังคงหลั่งไหลเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท อย่างคับคั่ง โดยท้ายแถวการรอคอยอยู่นอกจุดคัดกรองโรงแรมรัตนโกสินทร์ และจุดคัดกรองวงเวียนรักษาดินแดน ขณะที่สำนักพระราชวังสรุปยอดประชาชนที่เข้าถวายสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่า มีทั้งสิ้น 88,602 คน รวม 335 วัน 12,532,492 คน ยอดเงินที่ประชาชนถวายเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล 5,712,411.25 บาท ยอดรวม 876,090,282.76 บาท
...
ส่วนที่บริเวณท่าช้าง มีจักรยานยนต์จิตอาสา คอยรับผู้ที่กราบพระบรมศพเสร็จแล้วไปส่งที่ป้ายรถประจำทางจุดใหญ่ๆ โดยนายวีรเดช สินธวัช อายุ 41 ปี อาชีพพนักงานขายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี เปิดเผยว่า มาขับรถรับส่งประชาชนตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาหลักเลิกงาน สาเหตุเพราะอยากทำความดีถวายพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเมื่อมีโอกาสอันดีจึงอยากจะเป็นผู้ช่วยเหลือผู้อื่น สิ่งที่ได้คือความสุขใจ ขณะที่ น.ส.ดลนภา กลัดบุบผา อายุ 42 ปี ติวเตอร์สอนพิเศษอิสระ เคยเข้ากราบพระบรมศพ 312 ครั้ง กล่าวว่า ตอนนี้ประชาชนเดินทางมาเข้ากราบพระบรมศพมากมาย ท้ายแถวอยู่ที่สะพานผ่านฟ้าฯ ตนต้องมาเข้าแถวต่อคิวตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.นี้ เพื่อให้ทันเข้ากราบเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 5 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ สำนักพระราชวังแจ้งว่าหลังสิ้นสุดการให้ถวายสักการะพระบรมศพวันสุดท้ายในวันที่ 5 ต.ค. เวลา 24.00 น. จะมีการปิดพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดและทำนุบำรุงพื้นที่ให้พร้อมสำหรับจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยมีกำหนดเปิดอีกครั้ง ในวันที่ 13-14 ต.ค. ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันครบรอบ 1 ปี การเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 จากนั้นในวันที่ 18-24 ต.ค. จะมีการปฏิบัติสำคัญตามราชประเพณี คือการเปิดให้ข้าราชการสำนักพระราชวัง ข้าราชบริพาร ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 14,000 คน เข้าบำเพ็ญกุศล และถวายสักการะพระบรมศพ โดยจะจัดให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมในรอบ 19.00 น.
สำหรับความคืบหน้างานภูมิสถาปัตยกรรมพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.เหมือนแก้ว จารุดุล วชิระเธียรชัย ภูมิสถาปนิก สำนักสถาปัตยกรรมว่า ขณะนี้ในมณฑลพิธีอยู่ระหว่างจัดวางไม้กระถางประกอบพระราชพิธี ซึ่งมีกระถาง 9 รูปแบบ โดยล่าสุดนำกระถางรูปแบบที่ 2 เป็นกระถางซีเมนต์ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสใช้ลายไทย เรียกว่า ลายค้ำ นำลายจากเสาในอุโบสถวัดพระแก้ว จ.เชียงใหม่ เป็นลายมงคล จำนวน 16 ใบ เข้ามาจัดวาง ตำแหน่งที่เป็นถนนกลางสนามหลวงเดิมและใส่ต้นมะขามขนาดเล็ก ขณะที่ต้นไม้ที่จะปลูกในกระถางประกอบพระราชพิธีครั้งนี้ มีไม้ดัด บอนไซ และส่วนหนึ่งจะนำมาทำเขามอ บริเวณสระอโนดาต โดยวัดคลองเตยในจะขนย้ายเข้าพื้นที่วันที่ 8 ต.ค.ส่วนบนพระที่นั่งทรงธรรม จะประดับไม้ดอกสีเหลืองเพื่อเสริมบรรยากาศในพื้นที่ให้สวยดั่งสรวงสวรรค์ ขณะที่งานภูมิสถาปัตยกรรมด้านทิศเหนือ ตกแต่งบริเวณแปลงนาเสร็จแล้ว ส่วนบริเวณหลังพลับพลายกและทิศตะวันตกของแปลงนาข้าว ตกแต่งรั้วไม้ไผ่เพิ่มเติมเพื่อทำแปลงผัก เตรียมปลูกผักสวนครัวของโครงการหลวง สื่อแนวพระราชดำริ ซึ่งในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชทานให้ประชาชนอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และประสานโครงการหลวงเตรียมผักมาลงวันที่ 11 ต.ค.นี้
...
ขณะที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยตัวแทนคณะกรรมการฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ แถลงข่าวชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและการดูแลประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมในพระราชพิธีระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค.นี้ บริเวณท้องสนามหลวง ว่า ในวันที่ 26 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่มีพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพฯ ประชาชนสามารถเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยในเส้นทางที่ริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมศพ จากพระบรมมหาราชวังไปสู่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ที่ถนนมหาราช ฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ช่วงท่าช้างถึงท่าเตียน และที่ถนนสนามไชย ฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ช่วงสวนสราญรมย์ไปจนถึงศาลหลักเมือง ขณะเดียวกัน ในช่วง 5 วันดังกล่าว จะปิดการจราจรโดยรอบสนามหลวงและห้ามนำยานยนต์ทุกชนิดเข้ามาจอดตลอดเวลา ทั้งนี้ คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมพระราชพิธี ประมาณ 257,660 คน จึงอยากขอความร่วมมือให้ประชาชนเตรียมพร้อมดูแลตัวเองเบื้องต้นในการนำอาหารและน้ำดื่ม เตรียมยาประจำตัวมาด้วย และสิ่งที่สำคัญคือบัตรประจำตัวประชาชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจึงอยากเชิญชวนประชาชนให้ร่วมพระราชพิธีในพื้นที่ของตนเอง เนื่องด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองทั่วประเทศ และมีการถ่ายทอดสดตามเวลาจริง เสมือนหนึ่งประชาชนได้อยู่ร่วมในพระราชพิธีจริง
ส่วนที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดโรงประกอบเลี้ยงเพื่อให้ บริการอาหารกล่องและน้ำดื่มแก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระเทพวีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ เป็นประธาน มีจิตอาสาจากชุมชนท่าเตียน ปากคลองตลาด ครูอาจารย์จากโรงเรียนตั้งตรงจิตรพณิชยการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลพระราชวัง ร่วมกันให้บริการอาหารน้ำดื่มแก่ประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพ โดยพระราชรัตนสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ กล่าวว่า วัดโพธิ์ได้ตั้งโรงประกอบเลี้ยงร่วมกับมูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้าในพระบรมราชูปถัมภ์และมูลนิธิสิริวัฒนภักดี พร้อมระดมแม่ครัวจากทั่วประเทศกว่า 2 พันคน มาประกอบอาหารแก่ประชาชน จนถึงวันที่ 29 ต.ค.นี้ โดยตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 21 ต.ค. จะเปิดให้บริการถึงเวลา 11.00 น. และวันที่ 22-29 ต.ค. เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
...