ดีเอสไอ ออกหมายเรียก "พานทองแท้" พร้อม เลขาฯ และคนใกล้ชิด "คุณหญิงพจมาน" รับทราบข้อหาฟอกเงิน-สมคบฟอกเงิน กรุงไทย ขีดเส้นให้เข้าพบพนักงานสอบสวน 24 ต.ค.นี้ ...
จากกรณี สำนักงาน ปปง. เข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อเอาผิดกับ นายพานทองแท้ ชินวัตร ในคดีฟอกเงินกรุงไทย โดยเห็นว่าเช็คจำนวน 10,000,000 บาท ที่นายวิชัย กฤษดาธานนท์ สั่งจ่ายให้ นายพานทองแท้ เป็นธุรกรรมการโอนเงินซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และเมื่อมีการรับเงินตามเช็คแล้ว นายพานทองแท้ ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไปยังบัญชีอื่นของตัวเอง อันเป็นพฤติการณ์การซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของเงินนั้น จึงเข้าข่ายความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 5 (1) และ (2) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 2 ต.ค. แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มของนายพานทองแท้ ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในฐานะพยานไปแล้ว แต่พนักงานสอบสวนไม่เชื่อในหลักฐานที่พยานนำเข้าชี้แจง ประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีเข้าองค์ประกอบความผิดของกฎหมายฟอกเงิน คณะพนักงานสอบสวน จึงมีมติ คดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มกฤษดาธานนท์ มีมติออกหมายเรียก 1. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 2. นายเกศินี จิปิภพ 3. นางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และ 4. นายวัยชัย หงส์เหิน ให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงิน
โดยผู้ต้องหามีสิทธิตามกฎหมายที่จะนำพยานหลักฐานเข้าโต้แย้งแก้ข้อกล่าวหาได้ในทุกประเด็น หรือจะไม่ให้การในชั้นสอบสวนก็ได้ เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำไปประกอบการพิจารณาว่าจะสรุปความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ คดีนี้ดีเอสไอจะต้องสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณา ก่อนที่คดีจะครบอายุความ 15 ปี หรือประมาณกลางปี 2561
...
สำหรับการสอบสวนคดีนี้ เป็นผลมาจากคำพิพากษาในคดีทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งปรากฏหลักฐานในเส้นทางการเงินว่า นายพานทองแท้ นางเกศินี นางกาญจนาภา และนายวันชัย เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับเช็คเงินประมาณ 10 ล้านบาท และ 26 ล้านบาทจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ และนายรัชดา กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารบริษัทกฤษดามหานคร