พสกนิกรจากทั่วไทยหลั่งไหลล้นหลาม มาเข้ากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดทั้งคืน หลังเปิดให้เข้ากราบสักการะตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกเต็มที่ ส่วนพระเมรุมาศแล้วเสร็จไปกว่า 98% คงเหลือเก็บรายละเอียดเล็กน้อย

ประชาชนชาวไทยจากทั่วประเทศ หลั่งไหลเดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง กันอย่างล้นหลาม หลังจากมีการเปิดให้เข้ากราบสักการะพระบรมศพตลอด 24 ชั่วโมง

ในเวลา 03.50 น. วันที่ 30 ก.ย. ทูลกระหม่อม หญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จออกจากพระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง มายังเต็นท์จุดพักคอยประชาชน บนถนนสนามไชย หน้าประตูเทวาพิทักษ์ พระบรมมหาราชวังประทานอาหารกล่อง เป็นข้าวกะเพราหมูไข่ดาว พร้อมน้ำดื่ม ข้าวเหนียวหมูย่างกับข้าวเหนียวไก่ย่าง และชุดอาหารว่างให้กับประชาชนที่เดินทางมายังบริเวณพระบรมมหาราชวัง เพื่อร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดแนวจุดพักคอยตั้งแต่หน้าประตูเทวาพิทักษ์ไปจนถึงประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ โดยมีประชาชนจำนวนมากรอรับสิ่งของประทาน โดยทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงทักทายและรับสั่งกับประชาชนอย่างทรงเป็นกันเอง ก่อนเสด็จกลับในเวลา 04.30 น.

ด้านบรรยากาศที่พระบรมมหาราชวัง ตลอดทั้งวัน มีประชาชนจากทั่วสารทิศ ยังคงแต่งกายด้วยชุดไว้ทุกข์สีดำทยอยเข้าแถวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กันอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ และมีจิตอาสา จากหน่วยงานต่างๆ มาสลับสับเปลี่ยนมาคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่อยู่ระหว่างการรอคอย ตลอด 24 ชั่วโมง

...

ขณะที่สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 05.00 น.จนถึงเวลา 24.00 น. ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 47,174 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ยังเข้าแถวรอกราบสักการะพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ทยอยเข้ากราบสักการะพระบรมศพ จนหมดในเวลา 04.00 น.ของวันที่ 30 ก.ย.

นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ภาพรวมการก่อสร้างพระเมรุมาศและงานด้านศิลปกรรมประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชคืบหน้าร้อยละ 98 และหลังจากคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศฯ รับทราบหมาย กำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปในการยกพระนพปฎลมหาเศวตรฉัตร วันที่ 18 ตุลาคม จึงขยายเวลาการดำเนินงานประดับตกแต่งในส่วนต่างๆให้มีความสง่างามและมีความประณีตมากยิ่งขึ้น ส่วนการจัดระบบไฟส่องสว่างพระเมรุมาศและอาคารประกอบต่างๆ ได้ดำเนินการควบคู่กันไปและเสร็จแล้ว แต่ยังคงตรวจสอบและทดสอบ ปรับให้แสงไฟที่ส่องกระทบให้พระเมรุมาศและส่วนต่างๆมีความงดงามที่สุด ซึ่ง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาติดตามการติดตั้งระบบไฟทั้งหมดในวันที่ 2 ต.ค.

ด้านนายก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรม สำนักสถาปัตยกรรม กล่าวว่าได้เร่งดำเนินการเก็บรายละเอียดงานประดับผ้าทองย่นที่มีความชำรุดบางส่วน รวมทั้งติดตั้งยอดพุ่มข้าวบิณฑ์ที่หอเปลื้อง และซ่างให้ครบทั้ง 8 ยอด ส่วนบุษบกประธานพระเมรุมาศ จะรื้อนั่งร้านออกบางส่วน ให้ดูบางตาลงแต่ยังคงความแข็งแรงพร้อมสำหรับพระราชพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตรฉัตร ขณะที่สะพานเกรินยังเหลือตัวงานประดับผ้าทองย่นของตัวพญานาคที่เป็นสีเขียวและได้ทดสอบระบบการทำงานการรับน้ำหนักเกยลาและตำแหน่งที่จะใช้เทียบกับราชรถปืนใหญ่

นายก่อเกียรติกล่าวอีกว่า สำหรับส่วนยอดนั้น ได้มีการประดับองค์พระโพธิสัตว์บริเวณบันแถลง ตรงกลางชั้นที่ 7 ช่วงองค์ระฆัง การประดับครั้งนี้ มาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 เปรียบดั่งองค์สมมติเทพ ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต ในการถวายพระเพลิง เราส่งพระองค์ได้แค่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แต่พระองค์จะเสด็จไปสู่สรวงสวรรค์ชั้นดุสิตที่สูงที่สุดตามหลักไตรภูมิกถา ส่วนงานประดับภายในยังเหลือการปิดทองกรอบฉากบังเพลิง และในส่วนพระจิตกาธานที่อยู่ระหว่างการเก็บรายละเอียด การติดตั้งไฟทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ต.ค.