คนแห่จองเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ล้นหลาม แม้เปิดจองเป็นรอบที่ 2 แต่แค่ 15 นาทีแรก เหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายก็หมดเกลี้ยง ด้านอธิบดีกรมธนารักษ์ ยันเปิดให้จองเหรียญที่ระลึกฯ ชนิดอื่นๆจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ หรือจนกว่าเหรียญหมด และไม่ผลิตเพิ่มอีก ขณะที่แบงก์ชาติแจงความพร้อมจ่ายแลกธนบัตรที่ระลึก ร.9 วันที่ 20 ก.ย.นี้ เชื่อมีเพียงพอให้แลกเพราะพิมพ์แบบไม่จำกัดจำนวน ขณะที่ประชาชนหลั่งไหลเข้าถวายสักการะพระบรมศพแน่นขนัด โดย 319วัน ยอดรวม 10.77 ล้านคน ด้านจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ทำพิธีอัญเชิญช่อดอกไม้จันทน์ตัวแทนจังหวัด เพื่อส่งเข้ามายังกรุงเทพฯแล้ว

จากที่กรมธนารักษ์เปิดให้ประชาชนจองเหรียญที่ระลึกในโอกาสการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพิ่มเติมเป็นรอบที่ 2 ในวันที่ 18 ก.ย.เป็นวันแรก ผลปรากฏว่า ประชาชนให้ความสนใจเดินทางมาจองเหรียญกันอย่างคึกคักไม่แพ้การเปิดจองเหรียญในรอบแรกเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยที่กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 กทม. มีประชาชนเข้าคิวเพื่อจองเหรียญตั้งแต่เย็นวันที่ 17 ก.ย. ขณะที่ตามธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง มีคนมายืนต่อแถวกันตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนเปิดทำการ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม มีประชาชนมาจองคิวแรกตั้งแต่เวลา 03.30 น. ขณะที่ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ ซอยนานา ประชาชนนับร้อยเข้าคิวเพื่อจองซื้อเหรียญที่ระลึกฯ ตั้งแต่เวลา 06.00 น.

เช่นเดียวกับธนาคารกสิกรไทย สำนักพหลโยธิน และธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน มีประชาชนนับร้อยมาจองคิวตั้งแต่เวลา 07.30น.โดยหวังจะได้เป็นคิวต้นๆ แต่ทันทีถึงเวลาเปิดทำการ ปรากฏว่าที่ธนาคารกรุงเทพ เปิดจองเหรียญที่ระลึกฯ ได้แค่ 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็ปิดรับจองเหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย ซึ่งไม่ต่างจากธนาคารอื่นๆ เพราะยอดจองครบตามจำนวนผลิตแล้ว สร้างความผิดหวังให้กับคนที่ต้องการเหรียญทองแดงฯไม่น้อย

...

ขณะที่บรรยากาศการจองเหรียญที่ระลึกถวาย พระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในต่างจังหวัด ปรากฏว่าเกือบทุกจังหวัดทั้งเหนือ ใต้ อีสาน และภาคกลาง คนแห่ไปจองคิวยาวเพื่อรับบัตรคิวสำหรับการจองเหรียญ โดยเฉพาะที่สำนักงานธนารักษ์ จ.นครราชสีมา มีคนไปนอนรอเพื่อรอรับบัตรคิวตั้งแต่ตีสองและหลังเปิดรับบัตรคิวใช้เวลาเพียง 10 นาทีเหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายก็ถูกจองเกลี้ยง เช่นเดียวกับที่สำนักงานธนารักษ์ จ.ขอนแก่น ใช้เวลา 20 นาที บัตรจองเหรียญทองแดงฯก็หมด

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ถึงการเปิดจองเหรียญที่ระลึกฯ รอบที่ 2 ว่าประชาชนให้ความสนใจจองเหรียญเข้ามาอย่างถล่มทลาย โดยเฉพาะเหรียญที่ระลึกทองแดงรมดำพ่นทรายราคาเหรียญละ 3,000 บาท มียอดการผลิตเพิ่มเติมรอบที่ 2 จำนวน 40,000 เหรียญ ถูกจองหมดภายใน 15 นาที โดยกรมธนารักษ์และธนาคารพาณิชย์เปิดให้จองตั้งแต่เวลา 08.30น.พร้อมกันทั่วประเทศ ส่วนเหรียญทองและเหรียญเงินที่ผลิตเพิ่มในรอบที่ 2 นี้ มียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นายพชรกล่าวอีกว่า เหรียญที่ถูกจองหมดไปแล้ว เช่น เหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย จะไม่มีการผลิตเพิ่มอีก เพราะยอดจองทั้ง 2 รอบถือว่าเต็มศักยภาพการผลิตของกรมธนารักษ์ โดยกรมธนารักษ์ยังคงเป้าหมายเดิมในการมอบเหรียญที่ระลึกให้แก่ประชาชน ซึ่งจะเริ่มส่งมอบให้แก่ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการปลายเดือน ธ.ค.นี้ และจะเริ่มส่งมอบถึงมือประชาชนตั้งแต่เดือน ม.ค.2561 เป็นต้นไป ยกเว้นเหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย รอบ 2 อาจต้องไปรับช่วงเดือน ก.ค.2561 เพราะการผลิตต้องทำด้วยมือ และขัดด้วยมือทุกเหรียญ ซึ่งถือเป็นงานที่มีความประณีตสูง

“ประชาชนต้องการเหรียญไว้เป็นที่ระลึก หรือสักการบูชา ยังเหลือเหรียญคิวโปรนิกเกิล น่าจะมีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน โดยมียอดการพิมพ์ทั้งหมด 39,999,999 เหรียญ ขณะนี้ ถูกจองไปแล้วประมาณร้อยละ 50 ส่วนกรณีที่มีประชาชนนำใบจองเหรียญไปขายต่อในราคาที่แพงขึ้น ถือเป็นความพึงพอใจส่วนตัวของแต่ละบุคคล แต่อยากให้มองว่าเหรียญทุกประเภทมีลวดลายเหมือนกัน แตกต่างกันแค่วัสดุ ดังนั้น การมีเหรียญไหนก็เหมือนกัน” นายพชรกล่าว

จากนั้นในเวลา 16.30 น. นายพชรได้สรุปยอดการจองเหรียญที่ระลึกฯ ในวันแรกว่า เหรียญทองคำ มียอดคงเหลือ 18,925 เหรียญ เหรียญเงิน มียอดคงเหลือ 184,935 เหรียญ และเหรียญคิวโปรนิกเกิล มียอดคงเหลือประมาณ 20 ล้านเหรียญ โดยคาดว่าไม่เกิน 1-2 วัน เหรียญทองคำและเหรียญเงินจะหมดลงอย่างแน่นอน ส่วนเหรียญนิวโปรนิกเกิล เนื่องจากตั้งเป้าหมายการผลิตเอาไว้มากที่สุดถึง 39,999,999 เหรียญ ก็จะเปิดจองไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ หรือจนกว่าเหรียญจะหมด

สำหรับเหรียญที่ระลึกฯ ที่กรมธนารักษ์ผลิตในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.เหรียญที่ระลึกทองคำ ราคาเหรียญละ 50,000 บาท ได้ผลิตเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 50,000 เหรียญ จากครั้งแรกมียอดการผลิต 99,999 เหรียญ 2.เหรียญที่ระลึกเงิน ราคาเหรียญละ 2,000 บาท รอบที่ 2 ผลิตเพิ่มไม่เกิน 400,000 เหรียญ จากในครั้งแรกมียอดการผลิต 399,999 เหรียญ 3.เหรียญที่ระลึกทองแดงรมดำพ่นทราย ราคาเหรียญละ 3,000 บาท รอบที่ 2 ผลิตเพิ่มไม่เกิน 40,000 เหรียญ จากในครั้งแรกมียอดการผลิต 39,999 เหรียญ และ 4.เหรียญที่ระลึกคิวโปรนิกเกิล ผลิตทั้งหมด 39,999,999 เหรียญ

ส่วนความคืบหน้าในการผลิตกษาปณ์หมุนเวียนรัชกาล 10 เพื่อนำมาทดแทนเหรียญรัชกาล 9 นั้น อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ผลิตเหรียญกษาปณ์ได้แล้ว โดยขั้นตอนต่อไปกรมธนารักษ์จะนำเรื่องดังกล่าว เสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินตราของกรมธนารักษ์ ซึ่งจะต้องนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป สำหรับการออกแบบเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนรัชกาลที่ 10 ล่าสุดเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนรัชกาลที่ 9 กรมธนารักษ์ขอยืนยันว่า ยังสามารถใช้ทอนเงินในระบบเศรษฐกิจได้ต่อไป เนื่องจากกรมธนารักษ์จะค่อยๆผลิตเหรียญใหม่เข้าไปทดแทนเหรียญเก่า เพื่อรักษาสภาพคล่องและป้องกันเหรียญกษาปณ์ขาดตลาด ดังนั้น ประชาชนจึงอย่ากังวลกับเรื่องเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนขาดตลาด

...

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงการที่ ธปท.จะเปิดจ่ายแลกธนบัตรที่ระลึก ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ว่า ประชาชนสามารถแลกได้ที่ธนาคารพาณิชย์ทุกสาขา โดย ธปท.เตรียมกระจายธนบัตรที่ระลึกดังกล่าวไปยังธนาคารพาณิชย์ และธนาคารพาณิชย์ได้กระจายไปยังสาขาพร้อมแล้วที่จะจ่ายแลกให้กับประชาชน ทั้งนี้ ในการจ่ายแลกให้กับประชาชน ธปท.ได้กำชับธนาคารพาณิชย์จ่ายแลกให้ประชาชนอย่างทั่วถึงที่สุด โดยพยายามกระจายช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงมากที่สุด โดยในบางแห่งได้นำธนบัตรที่ระลึกใส่ในตู้เอทีเอ็มเพื่อให้ประชาชนสามารถกดได้อีกช่องทางหนึ่ง นอกจากนั้น ในช่วงต้นของการจ่ายแลกอาจจะกำหนดจำนวนชุดต่อคน ซึ่งอาจจะไม่ได้แลกคนละเป็น 100 ฉบับ แต่จะให้แลกได้ในจำนวนที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องรีบมาต่อคิวแลกในวันแรกของการจ่ายแลก เพราะธนบัตรที่ระลึกชุดนี้ จะจัดพิมพ์แบบไม่จำกัดจำนวน และ ธปท.จะทยอยนำส่งให้ธนาคารพาณิชย์จ่ายแลกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะไม่ได้แลก

นอกจากนี้ ในช่วงเช้าวันที่ 18 ก.ย. ทุกจังหวัดทั่วประเทศ มีพิธีอัญเชิญดอกไม้จันทน์แต่ละจังหวัด ส่งมอบให้กับกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งทุกจังหวัดต่างทำพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน เริ่มจากประธานของแต่ละจังหวัดวางช่อดอกไม้จันทน์ของจังหวัดนั้นๆบนพานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และผู้ร่วมพิธีตั้งจิตอธิษฐานเป็นเวลา 89 วินาที เป็นอันเสร็จพิธี ทั้งนี้ ช่อดอกไม้จันทน์ของแต่ละจังหวัดจะถูกนำส่งให้กระทรวงมหาดไทยในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้

ขณะที่บรรยากาศการเข้าถวายสักการะพระ บรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเข้าสู่ช่วงสิบวันสุดท้ายก่อนที่จะปิดการเข้าถวายสักการะในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ท้องสนามหลวง ตั้งแต่เช้า พสกนิกรจากทั่วทุกภูมิภาคหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมศพอย่างต่อเนือง บางช่วงเวลาคนล้นไปจนถึงถนนราชดำเนินในทั้งสองฝั่ง ท้ายแถวอยู่ที่บริเวณศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยมีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาคอยดูแล พร้อมกันนี้ก็มีคำแนะนำให้ประชาชนที่เดินทางมาจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ รวมทั้งควรรับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนเข้ามายังจุดพักคอย เพราะการรอคิวในช่วงนี้อาจกินเวลาไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมง ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 59,068 คน รวม 319 วัน มี 10,774,623 คน และประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 6,639,545.75 บาท รวม 319 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 797,286,254.51 บาท

...

วันเดียวกัน นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นำผู้แทนสำนักช่างสิบหมู่ เข้าประชุมร่วมกับผู้แทนกองศิลปกรรม สำนักพระราชวัง เพื่อกำหนด กรอบแนวทางการปฏิบัติ การจัดทำเครื่องสดประดับพระจิตกาธาน ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระ บรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ให้เป็นไปตามแบบแผนของราชสำนัก ซึ่งที่ประชุมมีมติว่ากองศิลปกรรม สำนักพระราชวังและฝ่ายใน จะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยจะเปิดให้ตัวแทนช่างแทงหยวกจาก 4 ภาค เข้ามามีส่วนร่วมกับทีมช่างหลวงราชสำนัก โดยมอบหมายให้สถาบันวิทยาลัย อาชีวศึกษาทั้ง 4 ภูมิภาค เป็นผู้คัดเลือก พร้อมกันนี้ยังมีตัวแทนช่างฝีมือสถาบันเทคโนโลยีคณะคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร นักศึกษาโรงเรียนช่างฝีมือวิทยาลัยในวัง ชาย วิทยาลัยในวัง หญิง และคณะครูนักเรียนโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า งานเครื่องสดประดับพระจิตกาธาน ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรม ศพ ร.9 ออกแบบโดยช่างฝีมือกองศิลปกรรม สำนักพระราชวัง ยึดแบบเดียวกับงานเครื่องสดประดับพระจิตกาธาน ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรม ศพรัชกาลที่ 6 โดยจะมีการประดับดอกไม้ไหวประดิษฐ์ เป็นดอกปาริชาติ ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สื่อความหมายว่าเป็นดอกไม้บนสวรรค์ เมื่อเบ่งบานจะส่งกลิ่นหอมไกลถึง 5,000 โยชน์ ใครได้กลิ่นจะสามารถระลึกชาติได้ เปรียบเหมือนเหล่าพสกนิกรชาวไทย ขอตราตรึงความทรงจำในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่มีต่อปวงชนชาวไทยตลอดไป ทั้งนี้ ในวันที่ 19 ต.ค. จะมีพิธีบวงสรวงสังเวยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนจัดทำเครื่องสดประดับพระจิตกาธาน จากนั้นช่างทั้งหมดจะเข้าร่วมลงมือปฏิบัติงานพร้อมกันที่ อาคารโรงโขน โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ พระบรมมหาราชวัง และในวันที่ 25 ต.ค. จะมีการนำขึ้นประกอบกับโครงสร้างพระจิตกาธาน บนพระเมรุมาศต่อไป

...

ส่วนที่ลานวิคทอรี พอยท์ เกาะพญาไท อนุสาวรีย์– ชัยสมรภูมิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ และสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าว “100 วัน ร้อยเรื่อง เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลัง” พร้อมเปิดนิทรรศการภาพถ่าย ที่ถ่ายทอดเรื่องราวช่วง 100 วันแรกภายหลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต ซึ่งนิทรรศการภาพถ่ายดังกล่าวจะแสดงถึงวันที่ 22 ก.ย.นี้ จากนั้นจึงจะนำไปจัดแสดงที่ สสส.ในวันที่ 25 ก.ย. พร้อมกับมีการแจกชุดหนังสือ 4 ชิ้น ประกอบด้วย หนังสือภาพ “100 วัน เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลัง” หนังสือบันทึกคำจงรัก เป็นการรวบรวมบทกวีที่แสดงความรู้สึก ความรำลึกถึงต่อการสวรรคตของพระองค์ หนังสือบันทึกความจงรัก เป็นหนังสือบันทึกเรื่องราวความจงรักภักดีที่แสดงออกในช่วง 100 วันแรกหลังการเสด็จสวรรคต และรวมซีดีและดีวีดี จำนวน 3 แผ่น 3 โครงการเพื่อพ่อ ซึ่งชุดหนังสือดังกล่าวมี 10,000 ชุด ประชาชนสามารถมารับได้ที่นิทรรศการภาพถ่ายที่เกาะพญาไท ตั้งแต่วันที่ 19-22 ก.ย.นี้ คนละ 1 ชุด และที่ สสส. ตั้งแต่ วันที่ 19 ก.ย.เป็นต้นไป คนละ 2 ชุด หรือดาวน์โหลดได้ที่ www.thaihealth.or.th

นอกจากนี้ มีรายงานว่า ในการจัดการประชุม International World Peace September 2017 ระหว่างวันที่ 26-28 ก.ย. ที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่จัดโดยองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส และสำนักงานผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) นั้น ในการเปิดประชุมช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ย. นางอิรินา โบโควา ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก และนายไมเคิล ว็อป ประธานกรรมการบริหารองค์การยูเนสโก พร้อมด้วยตัวแทนผู้แทนถาวรจากนานาประเทศ ตัวแทนผู้นำพระพุทธศาสนาจากประเทศต่างๆ และประธาน พ.ส.ล.จะกล่าวสดุดีถวายพระราชสักการะ แสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช