ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ กทม.แก้เป็นอินทามระภายใน 180 วัน
กทม.แพ้คดี กรณีทายาทสกุลอินทามระ ฟ้อง กทม.เปลี่ยนชื่อถนนอินทามระเป็นสุทธิสารฯเมื่อปี 2547 ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้ กทม.เปลี่ยนชื่อถนนให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงตามประวัติทะเบียนถนน ภายใน 180 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาคดีที่นายกฤษฎา อินทามระ ฟ้องกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าฯ กทม. ปลัด กทม. ผอ.เขตพญาไท และ ผอ.เขตดินแดง เรื่องละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด โดยเปลี่ยนชื่อถนนอินทามระเป็นถนนสุทธิสารวินิจฉัย ตั้งแต่ปี 2547 ทำให้ไม่ถูกต้องจากประวัติความเป็นมาของทะเบียนประวัติถนน โดยผู้ฟ้องได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองกลาง) เมื่อปี 2548 และศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ระบุว่า การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้า พิจารณาดำเนินการในเรื่องการเปลี่ยนแปลงชื่อถนนและซอยบริเวณถนนสุทธิสารวินิจฉัยและซอยอินทามระทั้ง 59 ซอยให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและหลักเกณฑ์ของกฎหมายต่อไป ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อปี 2547 กรุงเทพมหานคร ได้ปรับปรุงระบบเลขหมายประจำบ้าน โดยยกเลิกระบบหมู่ และเปลี่ยนเป็นระบบถนน ตรอก ซอย ตามมาตรฐานสากลให้เหมือนกันทั้ง 50 เขต ทั้งนี้ในส่วนถนนสุทธิสารวินิจฉัย และถนนอินทามระ นั้น กรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตพญาไท สำนักงานเขตดินแดง ตรวจสอบประวัติถนนทั้งสองสายแล้วพบว่าเมื่อปี 2503 กรมตำรวจมีมติให้ใช้ชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัย ตั้งแต่ถนนพหลโยธินเข้าไป 500 เมตร และตอนต่อไปใช้ชื่อถนนอินทามระ ซึ่งนายกเทศมนตรีเทศบาลกรุงเทพมหานครได้ลงทะเบียนไว้เป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2504
...
กรุงเทพมหานครระบุต่อไปว่า แต่จากการตรวจสอบในขณะนั้น (ปี 2547) ถนนสายดังกล่าวมีเพียงป้ายชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัย ไม่มีป้ายชื่อถนนอินทามระ แต่มีซอยอินทามระ 1 ถึงซอยอินทามระ59 กทม.มีความเห็นว่าประชาชนรู้จักแต่ชื่อถนนสุทธิสารฯมาเป็นเวลานาน หากเปลี่ยนแปลงชื่อถนนเป็นชื่อถนนอินทามระ จะมีผลกระทบต่อประชาชน อีกทั้งหากต้องตั้งชื่อถนนสายเดียวเป็นสองชื่อตามประวัติถนน น่าจะไม่ถูกต้องตามหลักสากล แต่ให้คงชื่อซอยอินทามระไว้คงเดิม นายกฤษฎา อินทามระ เห็นว่าไม่ถูกต้องจึงฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งศาลปกครองชั้นต้น มีคำพิพากษายกฟ้อง แต่ผู้ฟ้องได้อุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาว่า การดำเนินการของ กทม.ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามประวัติทะเบียนถนน พ.ศ.2503 อีกทั้งไม่เคยปรากฏว่า กทม.เคยรวบรวมข้อมูลเรื่องนี้เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน จึงมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น.