ฟิลลิป มอร์ริสใช้โอกาสวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. ยืนยันมุ่งสร้างสังคมไร้ควันสอดคล้องเป้าหมายการพัฒนายั่งยืนของสหประชาชาติ ชี้หากมีความกังวลเรื่องสุขภาพวิธีดีที่สุดต้องเลิกสูบบุหรี่...

นายพงศธร อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด กล่าวว่า ฟิลลิป มอร์ริสต้องการร่วมสร้างสังคมไร้ควัน โดยมีเป้าหมายในการนำผลิตภัณฑ์ไร้ควันมาแทนบุหรี่ ซิกา-แรตให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ เช่น โรคหัวใจ มะเร็งปอดและถุงลมโป่งพอง เป็นต้น ซึ่งมาจากควันที่เกิดจากการเผาไหม้เมื่อมีการจุดบุหรี่ ในขณะที่นิโคตินไม่ได้เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคจากการสูบบุหรี่ โดยการสูบบุหรี่ยังคงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้น ถ้ามีความกังวลเรื่องสุขภาพนั้น วิธีการที่ดีที่สุดคือ การเลิกสูบบุหรี่หรือไม่เริ่มสูบบุหรี่ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายประเทศต่างเริ่มตระหนักถึงทางเลือกการลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ โดยผลิตภัณฑ์ไร้ควันได้รับการควบคุมและจำหน่ายถูกต้องตามกฎหมายในญี่ปุ่น สหรัฐฯ และหลายสิบประเทศในยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษรัฐบาลรับเอานโยบายจะส่งเสริมให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา 

ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (พีเอ็มไอ) ได้วิจัยและพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อาจมีศักยภาพช่วยลดความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ เรียกว่า RRPs (Reduced-Risk Products) บนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่ให้ความร้อน แต่ไม่เกิดการเผาไหม้ในใบยาสูบ เพื่อให้ผู้ที่ยังมีความต้องการใช้นิโคตินมีทางเลือกที่อาจมีความเสี่ยงน้อยลงกว่ามากเมื่อเทียบกับบุหรี่ปกติ โดยนับตั้งแต่ปี 2551 พีเอ็มไอลงทุนกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีทีมนักวิจัยและวิศวกรกว่า 400 คน ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ไร้ควัน ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ไร้ควันนี้แล้วกว่า 25 ประเทศ และปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 2 ล้านคนทั่วโลกที่หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ขณะที่องค์การอนามัยโลกเองคาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2568 จะยังคงมีผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกกว่า 1 พันล้านคน การที่ยังมีคนจำนวนมากยังคงเลือกที่จะสูบบุหรี่ต่อไปนั้น จึงเป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ว่าคนเหล่านี้ควรจะมีทางเลือกที่อาจเป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ซิกาแรตธรรมดา

...

นายพงศธร กล่าวต่อว่า พีเอ็มไอประกาศเจตนารมณ์ร่วมสร้างความยั่งยืนโดยเข้าเป็นสมาชิกในข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ เพื่อดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายสากลตั้งแต่ปี 2558 ฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทยมีแผนงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติในอีกหลายส่วน เช่น การส่งเสริมการปลูกยาสูบอย่างยั่งยืน โดยการนำเอาหลักปฏิบัติที่ดีด้านแรงงานเกษตรมาใช้ตั้งแต่ปี 2554 เพื่อลดความเสี่ยงในการใช้แรงงานเด็ก การให้ความรู้ในการใช้สารเคมีในไร่ยาสูบโดยร่วมมือกับบริษัทรับซื้อและส่งออกใบยาเพื่อเก็บรวบรวมบรรจุภัณฑ์เคมีเกษตรกว่า 9 แสนชิ้น (10 ตัน) ที่ใช้ในไร่ยาสูบและพืชอื่นๆ จากชาวไร่เพื่อนำไปกำจัดทำลายได้อย่างถูกวิธี โดยโครงการนี้นับเป็นโครงการแรกในภาคเกษตรที่ทำอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย.