เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายวินัย หมื่นสุวรรณ ผอ.สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล เปิดเผยว่า ด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ตรา พ.ร.บ.โดยคำแนะนำของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ บัดนี้ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 เล่ม 134 ตอนที่ 10 ก เมื่อวันที่ 24 ม.ค.2560 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.2560 ในบทบัญญัติจะเพิ่มอัตราโทษความผิดเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำโดยผิดกฎหมายมากขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะผู้เป็นเจ้าของ หรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ จำเป็นต้องรู้เพื่อจะได้ปฏิบัติหรือดำเนินการให้ถูกต้อง ทั้งนี้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่สำคัญคือต้องมีลักษณะหรือสภาพไม่เป็นอันตรายต่อการเดินเรือ หรือการสัญจรทางน้ำ เมื่อปลูกสร้างแล้วจะไม่ทำให้ทางน้ำเปลี่ยนแปลง การใช้ประโยชน์จะไม่เกิดผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และต้องไม่รบกวนสิทธิต่างๆของผู้ที่อยู่ข้างเคียงตลอดจนผลประโยชน์ของมหาชนโดยส่วนรวม
ผอ.สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล เปิดเผยอีกว่า หากเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างไม่เคยได้รับอนุญาตหรือเคยได้รับอนุญาต แต่ปลูกสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบที่ได้รับอนุญาต ก่อนวันที่ 23 ก.พ.2560 โดยไม่แจ้งต่อกรมเจ้าท่า หรือ สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาที่สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้นตั้งอยู่ ภายในวันที่ 22 มิ.ย.2560 กรมเจ้าท่า หรือ สนง.เจ้าท่าภูมิภาคจะมีหนังสือแจ้งให้รื้อถอน หรือแก้ไขสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้นให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี แต่ไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อส่งฟ้องศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับเป็นตารางเมตรที่ล่วงล้ำน่านน้ำ ในอัตราตารางเมตรละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ จะต้องถูกปรับเป็นรายวัน วันละไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท ผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล หมายเลขโทรศัพท์ 0-7471-0655.
...