พระสงฆ์ คณะแพทย์และทีมกู้ชีพของวัดพระธรรมกาย แถลง ขอให้ยกเลิก ม.44 แฉ รัฐนำกำลังมาปิดล้อมดำเนินการ 17 วัน สูญไปแล้วเกือบ 100 ล้านบาท ยัน “ธัมมชโย” อาพาธ ไม่ได้หนี โวย หากมอบตัวก็โดนยึดทรัพย์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 มี.ค. 60 พระสงฆ์วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ออกมาชี้แจงเรื่องต่างๆ ดังนี้ กรณีนายกรัฐมนตรี พูดว่า ให้ลูกศิษย์วัดมีสตินั้น ขอชี้แจงว่า ลูกศิษย์เจริญสติ สมาธิ ปัญญา อยู่ทุกวัน ขอให้ท่านนายกฯ มีสติ ระงับอารมณ์โกรธ ฉุนเฉียว เพื่อบรรยากาศของประเทศที่สงบร่มเย็น ส่วนคดีสหกรณ์คลองจั่น ยังไม่มีการตัดสินว่าใครถูกหรือผิด เพราะคดีนี้เป็นเพียงการ “ขัดหมายเรียก” เพราะหลวงพ่อธัมมชโย ที่อาพาธไม่สามารถไปตามหมายเรียกได้
ส่วนที่ ผบ.ทบ. ระบุว่า หลวงพ่อธัมมชโย แค่คนเดียวควรเสียสละ แจงว่าลูกศิษย์ไม่เคยรู้สึกลำบากเพราะหลวงพ่อ แต่ลำบากเพราะมี ม.44 ถูกกำลังเจ้าหน้าที่มาปิดล้อม คุกคามตรวจค้นและไม่ให้เข้าวัด อีกทั้งรู้สึกว่าพระพุทธศาสนากำลังถูกรังแก ย่ำยี คุกคามจากภาครัฐ เพียงอยากตอบแทนบุญคุณที่สั่งสอนให้เป็นคนดีมีศีลธรรม สำหรับเรื่องที่ ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ ให้สัมภาษณ์ว่า แค่คนๆ เดียวออกมามอบตัวก็จบ เป็นตรรกะที่ผิดเพี้ยน
...
ทางด้านความคิดเห็นว่า ถ้าหลวงพ่อธัมมชโย ไม่ผิด ทำไมไม่มอบตัวสู้คดี ชี้แจงว่าไม่ได้หนี ยินดีเข้ากระบวนการยุติธรรมตั้งแต่แรก แต่อาพาธหนักจึงขอให้มาแจ้งข้อหาในวัด เจ้าหน้าที่ไม่มาแต่กลับออกหมายจับข้อหา “ขัดหมายเรียก” มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อจะยึดทรัพย์ของวัด ซึ่งคดียังอยู่ในขั้นตอนการกล่าวหา ถือว่าหลวงพ่อยังเป็นผู้บริสุทธิ์ นอกจากนี้ ยิ่งมีการตั้งคดีให้อีกตั้ง 300 กว่าคดี ในเวลาเพียง 1 เดือน แต่ละคดีก็ดูไร้สาระ จนต่อมาใช้ ม.44 และยกกองกำลังมาเกือบครึ่งหมื่น ตรวจค้นวัดหาตัวหลวงพ่อ ปิดล้อมวัดไป 17 วัน เสียงบประมาณไปมากมาย เจ้าหน้าที่บอกวันละ 3 ล้านบาท คือ 51 ล้านบาท ถ้าตามที่สื่อมวลชนประเมินวันละ 5 ล้านบาท เท่ากับ 85 ล้านบาท กรณีผู้ก่อการร้ายหรือเจ้าพ่อค้ายาเสพติดยังไม่เห็นลงทุนขนาดนี้ อีกทั้ง นายกฯ พูดว่า ถ้าหลวงพ่อมอบตัว และให้รัฐเข้าบริหารจัดการวัดพระธรรมกาย ก็จะยกเลิก ม.44 ชัดเจนว่า ที่ทำมาทั้งหมดเพื่อจะยึดทรัพย์ ซึ่งศิษย์วัด ยึดหลักไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป ไม่ได้สู้กับรัฐบาลแต่กำลังสู้กับความอยุติธรรม
ขณะที่คณะแพทย์พยาบาลอาสาวัดพระธรรมกาย ทีมกู้ชีพรัตนเวช ก็ออกแถลงการณ์เช่นกันว่า จากเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ศพ ที่เกิดจากการใช้กฎหมาย ม.44 รู้สึกสลดและโศกเศร้าใจเป็นอย่างมาก และไม่อยากให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก และการบังคับใช้ ม.44 ทำให้ประสิทธิภาพด้านการสื่อสาร การคมนาคม การประสานงานกับหน่วยงานภายนอกลดลง จึงอยากร้องขอให้ DSI และรัฐบาลเห็นใจ และปฏิบัติภารกิจโดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน หลักมนุษยธรรมและสิทธิของผู้ป่วย โดยการยกเลิก ม.44 และการปิดกั้นทางเข้าออกทั้งหมดรอบวัดพระธรรมกาย ยกเลิกการตัดสัญญาณโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต ขอให้ผ่อนปรนการเข้าออกของเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ขอให้มีหน่วยพยาบาลที่เป็นกลางทางสากลมาช่วยดูแลสุขภาพประชาชน
ทั้งนี้ ขอขอบพระคุณหน่วยงานของรัฐและอาสาสมัครกู้ชีพทุกหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ 1669 ที่ปฏิบัติงานร่วมกันด้วยความมีน้ำใจในการดูแลสุขภาพของพระภิกษุ สามเณร สาธุชนภายในวัด และขอความเมตตา DSI และรัฐบาลช่วยทำตามข้อเรียกร้องเพื่อป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมอีก.