คดีคนร้ายยิงแสกหน้า แม่เฒ่าคาร้านขายข้าวโพด ที่สุพรรณฯ ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตร.มุ่งประเด็นขัดแย้งคนใกล้ชิด...
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด จ่อยิงนางเปลี่ยน สุวรรณพืช วัย 73 ปี แม่ค้าขายข้าวโพด บริเวณเพิงพักร้านค้า ริมถนนสายวังลึก-สามชุก ม.14 ต.วังลึก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี โดยกระสุนถูกเข้าที่บริเวณหน้าผาก 1 นัด และกลางอกด้านซ้ายอีก 1 นัด พลเมืองดีได้รีบนำส่งโรงพยาบาลสามชุก แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มี.ค. พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจาก สภ.สามชุก ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี และชุดสืบสวนภาค 7 พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน และชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำเครื่องตรวจโลหะมาตรวจบริเวณรอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาปลอกกระสุน แต่ไม่พบหลักฐานใดๆ เพิ่มเติม
พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ พร้อมชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี และชุดสืบสวน สภ.สามชุก กว่า 30 นาย กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบหาเบาะแสร่องรอยของคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยเบื้องต้นได้แบ่งชุดการทำงานออกเป็น 5 ชุด โดยแบ่งการทำงานในการตรวจสอบกล้อง CCTV ตามเส้นทางจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี ชุดการทำงานกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี ตรวจสอบหลักฐานยังจุดเกิดเหตุ ตรวจร่องรอยหาวิถีกระสุน ปลอกกระสุนปืนในจุดเกิดเหตุ ส่วนอีกชุดจะทำการตรวจสอบบ้านผู้เสียชีวิต และจัดทีมชุดสืบสวนสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง พยาน และบุคคลใกล้ชิด บุคคลต้องสงสัย เพื่อนำมารวบรวมพยานหลักฐานสืบหาเบาะแสร่องรอยของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด
...
ทั้งนี้ จากการสอบประวัติของผู้ตาย เป็นแม่ค้าผู้สูงอายุ มีอาชีพขายข้าวโพด มันเทศ กล้วย และไม่ค่อยมีปัญหา หรือวิวาทกับใคร ดังนั้นปมสังหารโหดในครั้งนี้จึงวางไว้หลายประเด็น แต่ที่พุ่งเป้ามากที่สุด คือ การมีปัญหาส่วนตัวกับบุคคลใกล้ชิด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเรื่องใด คงต้องรอการรวบรวมพยานและหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ส่วนเรื่องประเด็นที่เพิงพักร้านค้าของผู้ตายนำป้ายมาติดไว้ แล้วเขียนข้อความว่า “พื้นที่ส่วนบุคคล ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต แล้วติดเบอร์โทรศัพท์เอาไว้” จะเป็นชนวนของการก่อเหตุสลดครั้งนี้หรือไม่ ก็ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง แต่ยังไม่สามารถระบุชัดเจนว่าเรื่องใดกันแน่ แต่เชื่อว่าคดีนี้ไม่ซับซ้อน คาดว่าจะสามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้เร็วๆ นี้อย่างแน่นอน.