ดีเอสไอ พร้อมแพทย์ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน และอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง ที่เข้าร่วมช่วยเหลือ ศิษย์สาววัดพระธรรมกาย ป่วยหอบหืด นำสื่อตรวจสอบรถโรงพยาบาล อุปกรณ์การแพทย์ พร้อมแจงแนวทางช่วย ฝากถึงผู้ป่วย หากมีโรคประจำตัว แต่ไม่ออกมาจากวัด ต้องพกยา แต่ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่สแตนด์บายช่วยตลอดเวลา ...
เวลา 14.00 น. วันที่ 3 มีนาคม ที่หน้าประตู 7 วัดพระธรรมกาย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักษ์ศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิเวศ สิริพงศ์ นายแพทย์ สบ.4 ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลตำรวจ นายบุญฤทธิ์ เพรชรักษา รอง ผอ.สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และนายสหพล ศรีสมบัติ อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง ที่ร่วมเข้าไปช่วยเหลือ น.ส.พัฒนา เชียงแรง ศิษย์วัดพระธรรมกายที่เสียชีวิต นำสื่อมวลชนตรวจสอบรถป่อเต็กตึ๊ง 1669 รถโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ และแนวทางปฏิบัติต่อผู้ป่วยฉุกเฉินทุกกรณี
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ทางโรงพยาบาลต่างๆ จะรับแจ้งเหตุในทุกกรณี และทางโรงพยาบาลตำรวจมาประจำที่นี่ โดยการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในการรับแจ้งเหตุทุกกรณี การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเรื่องนี้มีการเตรียมการมาตั้งแต่วันที่ 15-16 ก.พ.ที่ผ่านมา หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุใดๆ แพทย์ฉุกเฉินมีวิธีการปฏิบัติค่อนข้างชัดเจนแล้วมีขั้นตอนการปฏิบัติ รวมถึงระยะเวลาปฏิบัติที่มีมาตรฐาน โดยวางแผนร่วมกับดีเอสไอ ตำรวจ และทหาร ตนมั่นใจว่า ที่ผ่านมาการเข้าไปปฏิบัติในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ได้รับรายงานการเข้า-ออก ไม่มีอุปสรรคใดๆ ในการปฏิบัติงาน เพราะการที่แพทย์และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เวลาจะปฏิบัติงานในพื้นที่จริงๆ จะมีการซักซ้อมกันทุกวันอยู่แล้ว พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ป่วย ตนเข้าใจว่าคนที่อยู่ในวัดก็ต้องการความช่วยเหลือบางส่วน ในส่วนของการบริการ เราก็พร้อมบริการให้ความช่วยเหลือตามกำลังความสามารถ
...
"อยากขอความร่วมมือ และอยากให้แพทย์ฝากเตือนคนในวัดพระธรรมกายว่า ใครที่มีโรคประจำตัว ซึ่งบางครั้งมันอาจจะมีเหตุฉุกเฉินขึ้นมา การช่วยเหลือมันไม่ทันต่อสถานการณ์ ดังนั้น คนที่มีโรคประจำตัว ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เราก็จะพยายามเข้าไปช่วยเหลือโดยเร็ว ขอให้แจ้งเข้ามา เพราะช่วงนี้อากาศร้อน มันอาจจะเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นมาอีก ถามว่าใครจะต้องรับผิดชอบ คนที่อยู่ในวัดที่ไม่ให้ออกมาเป็นผู้รับผิดชอบ หรือคนภายนอก ต้องรับผิดชอบ เพราะดูเหมือนว่าการประกาศมาตรา 44 เป็นเหตุให้คนเสียชีวิต ดังนั้น ถ้าท่านมีโรคประจำตัวเราพร้อมช่วยเหลือตลอด แต่เวลาเกิดเหตุขึ้นมา มันก็ยากที่จะควบคุม เพื่อไม่ให้ใครเป็นอะไรไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของรัฐทำดีถึงที่สุดแล้ว ในการที่จะดูแลและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ อยากให้ทางวัดเข้าใจว่า เราไม่ได้ละเลยการปฏิบัติต่อผู้ป่วย ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น" พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าว
โฆษกดีเอสไอ เผยว่า ปัจจุบันนี้ เจ้าหน้าที่มีรถพยาบาลประจำอยู่ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง อยู่ทั้งหมด 7 คัน สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย ด้านมาตรการการควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย ปัจจุบันนี้เจ้าหน้าที่มีการเจรจาพูดคุยกับทางวัดหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณตลาดกลางคลองหลวง ซึ่งตอนนี้ยังไม่ลงตัว อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ทำความเข้าใจกับพระและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แต่พบว่า สถานการณ์ค่อนข้างผ่อนคลายลง แต่ยังไม่มีการพูดถึงการตัดน้ำตัดไฟ ขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่า มีการออกหมายจับพระสนิทวงศ์ อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อเราออกหมายเรียกไปแล้ว ท่านไม่มารายงานตัว ก็ต้องออกหมายจับต่อไป
พ.ต.อ.นิเวศ สิริพงศ์ นายแพทย์ สบ.4 ศูนยการแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า สิ่งที่เราเป็นห่วง คือ คนไข้ที่มีโรคประจำเรื้อรัง อยากให้คนที่มีโรคประจำตัว พกยาติดตัวประจำไว้ และบอกข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัวให้กับคนรอบข้างรับทราบด้วย หากเกิดเหตุการผิดปกติเกี่ยวกับร่างกายให้ติดต่อประสานมาที่หน่วยแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลต่างๆได้ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้เราพร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือ
นายบุญฤทธิ์ เพรชรักษา รอง ผอ.สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับสถิติของผู้ป่วยที่อยู่ภายในวัดขณะนี้มีเพียงรายเดียว ส่วนรายอื่นคิดว่าทางวัดดำเนินการดูแลอยู่ เพราะว่าภายในวัด ก็มีทีมแพทย์และพยาบาลและหน่วยกู้ชีพ พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งเขารู้ขั้นตอนการปฏิบัติเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังมีใครแจ้งยืนยันมาเพิ่มเติมว่า มีผู้ป่วยอยู่ในวัดหรือไม่ แต่ถ้ามีการแจ้งว่าเราจะประสานกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ประจำอยู่ทุกประตู ซึ่งดีเอสไอได้แจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินว่าหากเกิดเหตุสามารถออกไปช่วยได้ทุกประตู แต่การเข้าเรามีการตกลงกับทางวัด สามารถเข้าได้แค่ทางประตู 7 เท่านั้น
นายสหพล ศรีสมบัติ อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า เวลาเราทำงานเราประสานกับเจ้าหน้าที่ก่อนเป็นหลัก โดยการเคลื่อนรถป่อเต็กตึ๊งจากกองอำนวยการคลองหลวงมาที่ประตู 7 วัดพระธรรมกายประมาณ 2 นาที นี่คือข้อตกลงระหว่างมูลนิธิกับเจ้าหน้าที่ของวัด
เมื่อเวลา 15.40 น. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับพระสนิทวงศ์ ตามที่ดีเอสไอมาร้องทุกข์กล่าวโทษ