ผบ.พล.1 ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงในการบริหารและจัดการขยะมูลฝอย 18 แห่งใน อปท.กาญจน์ เพื่อสร้างประโยชน์ให้ ปชช.เข้ามาบริหารการจัดการในระยะยาว และเป็นโอกาสสร้างอาชีพในการแปลงขยะในรูปแบบรีไซเคิล...

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 มี.ค.60 พล.ต.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.พล.1 รอ. เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOA) ในการบริหารและจัดการขยะมูลฝอยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน พร้อมด้วย พล.ต.รังษี กิติญาณทรัพย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และที่ปรึกษา ผบ.พล.1 รอ. พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐ และภาคประชาชน ร่วมเป็นสักขีพยาน ที่องค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน จังหวัดกาญจนบุรี สำหรับพิธีการลงนามบันทึกข้อตกลงในการบริหารและจัดการขยะมูลฝอยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในครั้งนี้เป็นการลงนามระหว่าง นายสมชายฟักทอง นายก อบต.แก่งเสี้ยน กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 18 แห่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี

โดย อปท.ต่างๆ มีข้อตกลงว่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน เป็นผู้ดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 18 แห่ง คือผู้นำขยะมูลฝอยมากำจัด ซึ่งจะต้องนำขยะมูลฝอยมากำจัด ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจรองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน ภายในเวลา 16.00 น. ของทุกวัน และจะชำระค่าธรรมเนียมการกำจัดขยะมูลฝอยที่องค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน สำหรับการดำเนินการบริหารจัดการขยะมูลฝอยในครั้งนี้ ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาการจัดการขยะเป็นวาระที่ต้องได้รับการแก้ไขปัญหาเป็นลำดับแรก โดยให้ดำเนินการตาม Road map การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย เพื่อกำจัดมูลฝอยตกค้างสะสมในสถานที่กำจัดพื้นที่วิกฤติ สร้างรูปแบบที่เหมาะสมและวางระเบียบมาตรการการบริหารจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายและสร้างวินัยของคนในชาติ โดยมุ่งเน้นการคัดแยกขยะเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาขยะอย่างครบวงจรและมีรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของรัฐบาล

...

พล.ต.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการจัดการขยะเป็นวาระแห่งชาติและเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขร่วมกัน ซึ่งในครั้งนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา เป็นความปรองดองร่วมกันทำประโยชน์ ในการบริหารจัดการในระยะยาวและกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ จะสนับสนุนที่สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนให้เข้ามาบริหารการจัดการขยะร่วมกัน และในระยะยาวจะร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ยั่งยืน ซึ่งจะสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส สร้างอาชีพในการแปลงขยะในรูปแบบรีไซเคิล สร้างรายได้ให้กับประชาชน.