ปี 2560 รัฐบาลคาดหวังไว้ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น และมีเม็ดเงินกระจายสู่ประชาชนทุกระดับ จึงเร่งรัดให้ทุกกระทรวงขับเคลื่อนตามนโยบายให้สัมฤทธิผล
ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ดูจะเป็นเป้าหมายหลักที่จะสามารถกระจายเม็ดเงินลงสู่ภาคธุรกิจต่างๆทั่วประเทศ ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงจริงๆ จึงเชื่อมั่นว่า ปีหน้าธุรกิจท่องเที่ยวจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างแน่นอน
ส่วนจะมั่นใจได้แค่ไหน คงต้องมาฟังจากผู้รับผิดชอบหน่วยงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในแต่ละส่วนมีการขับเคลื่อนนโยบายท่องเที่ยวในปีหน้าอย่างไร
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งเป้าให้กระทรวงเป็นหลักในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
แต่ย้ำนโยบายการสร้างความเติบโตด้านการท่องเที่ยวและเพิ่มได้อย่างไร เพื่อให้การท่องเที่ยวมีคุณภาพและเติบโตอย่างยั่งยืน
“ปี 2560 จะไม่พูดเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่จะเน้นตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวไว้ที่ 2.5 ล้านล้านบาท เพราะปีที่ผ่านมามีรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท จึงคาดว่าน่าจะได้ตามเป้า จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวกัน ส่วนรายได้จากไทยเที่ยวไทย แม้ว่าตัวเลขจะขึ้นช้า แต่เชื่อว่าจะดีขึ้น” นางกอบกาญจน์กล่าวอย่างมั่นใจ
พร้อมทั้งย้ำว่า ปีหน้าการท่องเที่ยวต้องเติบโตอย่างก้าวกระโดด เน้นพัฒนาการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ต้องดูแลสิ่งแวดล้อม และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทย
ส่วนการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นนั้น เรายังคงเน้น 1.ส่งเสริมเปิดเมืองท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยงกันมากขึ้น จากของเดิมที่ทำอยู่แล้ว เที่ยวจากจังหวัดหนึ่งต่อไปจังหวัดอื่นๆ คิดทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมในชุมชนมากขึ้น 2.สร้างภาพลักษณ์เป็นสินค้าใหม่ เช่น โปรแกรมตรวจสุขภาพ รักษาพยาบาลแล้วต่อยอดท่องเที่ยว 3.ท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งมีการแข่งขันกีฬาระดับโลกที่ทำอยู่แล้ว 4.ท่องเที่ยวทางน้ำ มีโปรแกรมเที่ยวทางน้ำทางคลอง แม่น้ำและทะเล และให้ไทยเป็นมารีนาฮับ เช่น ภูเก็ตและเกาะสมุย 5.เชื่อมโยงท่องเที่ยววัฒนธรรมอาเซียน เพราะมีสายการบินโลว์คอสต์เชื่อมถึงกันอยู่ 6.ท่องเที่ยวแต่งงานและฮันนีมูนซึ่งไทยเป็นฮับอยู่และเป็นที่นิยม
...
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว 4.เรื่องใหญ่ได้แก่ 1.ด้านดิจิตอล เตรียมความพร้อมรับไทยแลนด์ 4.0 ตอบโจทก์นักท่องเที่ยวที่ดูข้อมูลทางออนไลน์และจองเองถึง 50-60% ปีใหม่อาจขึ้นถึง 70-80% 2.การสร้างข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเพื่อให้เอาไปใช้ด้านการท่องเที่ยว และ 3.พัฒนาและยกระดับบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เช่น อบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และ 4.การทำงานเข้าระบบ เน้นให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบ จดทะเบียนถูกต้อง มีการเรียนรู้ในการจ่ายภาษีถูกต้อง และให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวที่ถูกต้องเรื่องที่พักและราคาสินค้าที่เป็นจริง
นั่นเป็นนโยบายเชิงรุกที่ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาชูธงขับเคลื่อนสร้างรายได้เข้าประเทศ แต่ก็ต้องมาฟัง นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงในฐานะแม่บ้านกระทรวง ที่ต้องควบคุมดูแลโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยวด้วย
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมากระทรวงยกระดับมาตรฐานปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ดึงผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบ จ่ายภาษีที่ถูกต้อง จัดทำมาตรฐานการท่องเที่ยว จะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่มาตรฐานสากล
การแก้ปัญหาแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมและความสะอาด ได้จัดตั้งเขตพัฒนาการท่องเที่ยวขึ้นมา 8 เขต เพื่อให้เกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ นำไปสู่การจัดสรรงบประมาณตรงกับความต้องการ รวมทั้งเน้นการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้บริหารจัดการท่องเที่ยวในลักษณะเชื่อมโยงกับตลาดอย่างยั่งยืน
ด้านมาตรการความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ปีที่ผ่านมาดำเนินการไปหลายด้าน ที่ช่วยให้ป้องกันและแก้ปัญหาได้ต่อเนื่อง อาทิ ขยายเครือข่ายศูนย์ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (ศูนย์ TAC) ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ 16 ศูนย์, เพิ่มอัตราตำรวจท่องเที่ยว พร้อมอุปกรณ์ทั้งกล้องซีซีทีวี ลำเรือเร็วประจำการ, ตั้งกองทุนช่วยเหลือ
นักท่องเที่ยว, การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างส่วนราชการและเอกชน รวมถึงโครงการ Amazing Thai Hosts ตามข้อเสนอของคณะทำงานประชารัฐ สร้างเครือข่ายผู้สูงอายุมาคอยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
“เรามุ่งมั่นจะทำทุกวิถีทางที่จะยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้เกิดรายได้เข้าประเทศอย่างยั่งยืน และรายได้นั้นกระจายสู่ประชาชนอย่างเป็นธรรม ทั่วถึง และเท่าเทียมกัน” นายพงษ์ภาณุ กล่าว
...
นโยบายดีและมาตรฐานการจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวดี คงต้องมาฟังหน่วยงานหลักที่ต้องคิดรูปแบบและกลยุทธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวกันบ้าง
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยว่า ปี 2560 ททท.ยังเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากต่างประเทศและในประเทศ ทำการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน เช่น การเจาะกลุ่มตลาดใหม่ อาทิ กลุ่มมุสลิม, กลุ่มนักธุรกิจใหม่ รวมทั้งขยายฐานตลาดที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย อาทิ กลุ่มรายได้ต่อคนตั้งแต่ 20,000 เหรียญสหรัฐฯ/คน/ปี
นอกจากนี้ยังรักษาตลาดเดิม รวมทั้งท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับอาเซียน ยังคงใช้ Amazing Thailand เป็นแนวทางการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ปี 2560 มีปัจจัยหลายอย่างที่คาดว่าแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีน อินเดีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น รัสเซีย สหรัฐฯจะเพิ่มขึ้น
ส่วนตลาดในประเทศยังใช้แคมเปญ “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” เชิญชวนเที่ยวข้ามภาค เสนอแคมเปญพิเศษแก่สตรี
ผู้สูงอายุในการท่องเที่ยว รวมทั้งนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่สนับสนุนหน่วยราชการจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ “40 เส้นทางตามรอยพระบาท” ตลอดปี และงานต่างๆที่สนับสนุนการท่องเที่ยวอีกมากมาย
...
มองภาพรวมแล้ว หากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาตามเป้าที่คาดกันไว้ และมีการท่องเที่ยววิถีไทยกระจายตามท้องถิ่น จะส่งผลให้ มีเม็ดเงินกระจายทุกภาคส่วนของการท่องเที่ยว ย่อมมีผลให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นทั่วไทยพลิกฟื้นแน่นอน.
ทีมข่าวภูมิภาค