ชาววังชิ้น เมืองแพร่ แจ้งความสำนักงานสวนป่า หลังให้คนไปตัดไม้สัก 37 ต้นในสวนของชาวบ้าน ขณะที่ป่าไม้แจงว่าจ้างคนงานไปตัด แต่คงดูแผนที่ผิดแปลง ตร.เปิดทาง 2 ฝ่ายเจรจา ชาวบ้านร้องต้องดำเนินคดีทางอาญาเท่านั้น ไม่รับเงินชดเชย

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.59 กลุ่มชาวบ้านจากหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 10 ตำบลนาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ โดยมีนายอินสน เข็มทอง รองนายก อบต.นาพูน นายมนัส คำหุ่น รองนายก อบต.นาพูน นายประไพ แก้ววัน ประธานสภา อบต.นาพูน นายเสน่ห์ เงินมูล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 และนายขจร ใจมา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.นาพูน และนายตวย เงินมูล เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ณัฐพล สันป่าแก้ว รอง สว.สอบสวน สภ.อ.นาพูน

นายขจร กล่าวว่า ที่ดินของนายตวย ซึ่งเป็นสวนส้มเขียวหวาน และปลูกต้นสักรวม 300 กว่าต้น ในเนื้อที่ 5 ไร่ 3 งาน 66 ตารางวา แปลงที่ 11 อยู่ในเขตบ้านนาพูน หมู่ที่ 11 นั้น โดยเมื่อค่ำวานนี้ (7 ก.ย.) ได้มีคนนำเครื่องจักรและช้างเข้าไปในสวนของนายตวย แล้วทำการโค่นล้มต้นสักอายุกว่า 33 ปี เส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 1 เมตรความสูงกว่า 30 เมตร โดยถูกล้มลงมาจำนวน 37 ต้น และมีการตัดทอนรวม 48 ท่อน รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท จากนั้นได้ชักลากมาเรียงกันไว้ริมถนนเพื่อเตรียมการขนย้าย เมื่อชาวบ้านทราบก็พากันเข้าไปดู พบว่าคนที่ตัดได้หลบหนีออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว และทราบว่าเป็นคนของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จึงมาแจ้งความเพื่อให้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี และจะไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น

...

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 ก.ย.59 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาจับกุมชาวบ้านที่ตัดไม้ในสวนป่าเพียง 1 ต้น ถูกป่าไม้จับดำเนินคดี ชาวบ้านและผู้นำหมู่บ้านก็พากันไปขอ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอม และขณะนี้ชาวบ้านก็อยู่ในคุก และยึดรถจักรยานยนต์ชาวบ้านไปด้วย ซึ่งชาวบ้านพยายามอธิบายว่าคนที่มาตัดไม้เพียง 1 ต้นนั้น ต้องการเอาไม้มาสร้างกระต๊อบกลางทุ่งนา แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมฟัง โดยยืนยันว่าจะจับอย่างเดียว คราวนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้มาลักลอบตัดไม้ของชาวบ้านตั้ง 37 ต้น จะให้ปล่อยไปคงไม่มีชาวบ้านยอมแน่

พ.ต.ท.ธงชัย เนื่องพืช รอง ผกก. (สอบสวน) และหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.นาพูน อ.วังชิ้น กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งแล้วตามที่ผู้แจ้งได้บ่งชี้ว่าใครเป็นคนเข้าไปตัด ทางพนักงานสอบสวนได้เดินทางเข้าพื้นที่ไปตรวจสอบ และให้เจ้าของที่นำเอกสารมายืนยัน ตนได้ติดต่อไปยังสำนักงานสวนป่าแม่สิน-แม่สูง-แม่แปง ต.นาพูน โดยมีนายอนุชิต เกษียณ หัวหน้าสำนักงานสวนป่า (อ.อ.ป.) ได้เดินทางมาพบพร้อมกับนายสมบัติ เหล็กสิงห์ อายุ 39 ปี

นายอนุชิตให้การว่า การตัดไม้ในที่ดินของชาวบ้านนี้ เป็นเรื่องจริง ซึ่งทางสำนักงานสวนป่าได้ทำการว่าจ้างนายสมบัติ เป็นคนลงไปตัด โดยได้มีการทำสัญญาไว้และทางสวนป่าก็ได้มอบแผนที่ พิกัดที่จะตัดแนบไปให้ แต่เมื่อนายสมบัติลงมือตัด กลับไปตัดผิดที่ เนื่องจากพื้นที่ติดกันเพียงแต่มีถนนคั่นไว้ ดังนั้นนายสมบัติต้องรับผิดชอบชดใช้ความเสียหายให้กับชาวบ้าน

ทางด้านนายขจร ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมรองนายกเทศมนตรี และชาวบ้านยืนยันจะเอาความผิดทางอาญาให้ได้ โดยจะไม่ยอมรับเงินชดเชย หากชดใช้แล้วต้องดำเนินคดีทางอาญาด้วย ซึ่งทาง พ.ต.ท.ธงชัย ก็ได้ทำการไกล่เกลี่ยในเบื้องต้น แต่หากตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องดำเนินคดีกับผู้เข้าไปตัด ซึ่งคือนายสมบัติ

ในเวลาต่อมา นายสุคนธ์ ใจตั้ง หัวหน้าสำนักงานสวนป่าที่ พร.25 แม่สิน-แม่สูง ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ก็นำเจ้าหน้าที่ในสำนักงานลงไปตรวจสอบด้วย และกล่าวว่า หากทางผู้เสียหายแจ้งความเป็นคดี ทางสำนักงานสวนป่าก็ต้องเข้าไปตรวจสอบและวัดปริมาตรไม้ที่ถูกโค่นล้มลงมาและบันทึกในส่วนของกรมป่าไม้ก็ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.ท.ธงชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับนายสมบัติผู้ที่เข้าไปตัดไม้ เนื่องจากให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันก่อนว่าจะเอายังไงกัน แต่หากทางผู้เสียหายยังยืนยันที่จะดำเนินคดี ก็จะแจ้งข้อหาและควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี.