โอละพ่อ กองปราบฯประสานตำรวจจังหวัดพิษณุโลก ตรวจสอบพ่อค้าขายปลาหมึกแห้งบดที่ จ.พิษณุโลก อ้างตัว เป็น พ.ต.อ.เกษียณ ราชการ สังกัดกองปราบฯ แฝงตัวมาหาข่าวด้วยการขายปลาหมึกแห้งบดในพื้นที่ได้ 25 ปีแล้ว จนเป็นเรื่องฮือฮาในโลกโซเชียล ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทราบข่าวแห่ไปซื้อเป็นการใหญ่ สุดท้ายโดนตำรวจจริงไปตรวจสอบจนยอมจำนนรับสารภาพไม่ได้เป็นตำรวจแต่อย่างไร สาเหตุฝังใจอยากเป็น ตำรวจเหมือนลูกพี่ลูกน้อง เลยบอกสื่อที่มาขอสัมภาษณ์ ไป หลังมีข่าวออกยอดขายปลาหมึกดีขึ้น ใครมาถาม เลยบอกเป็นตำรวจ ด้านกองปราบฯเตรียมประสานบก.ปอท.ว่าเข้าข่ายมีความผิดหรือไม่
กองปราบฯตรวจสอบพ่อค้าปลาหมึกบดแห้งที่จังหวัดพิษณุโลก หลังอ้างตัวเป็น พ.ต.อ.สังกัดกองปราบปราม พบไม่ได้เป็นตำรวจจริง เตรียมประสาน ปอท.ว่าเข้าข่ายผิดหรือไม่ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รรท.ผบก.ป.ได้ประสาน พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก ตรวจสอบกรณีโลกโซเชียลเผยแพร่ข้อมูลตามสื่อต่างๆว่า มี พ.ต.อ.สมจิตร อดีตตำรวจกองปราบปราม มาขายปลาหมึกแห้งบด ชื่อร้าน “ใหญ่ แห้ง บด” ที่บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา ย่านใจกลางเมืองพิษณุโลก ทำให้ชาวเมืองพิษณุโลกและบรรดานักท่องเที่ยวพากันมาเลือกซื้อปลาหมึกบดของ พ.ต.อ.สมจิตรอย่างต่อเนื่อง หลังทราบข่าวว่าพ่อค้าปลาหมึกบดชื่อดังและเป็นที่คุ้นเคยของชาวจังหวัดพิษณุโลกมายาวนานหลายสิบปี เป็นตำรวจกองปราบปรามแฝงตัวมาหาข่าวในพื้นที่ หลังจากจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่อำเภอ สามพราน จังหวัดนครปฐม เข้ารับราชการประจำอยู่ที่กองปราบปราม ได้มีคำสั่งให้ตนพร้อมเพื่อนรวม 5 คน มาแฝงตัวอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ทั้ง 9 อำเภอ โดยเลือกหาวิธีที่จะเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะบ่อนการพนัน ร้านเหล้า แหล่งอบายมุข ด้วยการ ใช้รถพ่วงข้างขายปลาหมึกแห้งบด เนื่องจากสะดวกและสามารถเข้าถึงได้ทุกตรอกซอกซอย ในจังหวัดพิษณุโลก
...
พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก กล่าวว่า หลังได้รับการประสานจากกองบังคับการปราบปราม ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นนทวร สีอินทร์ รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองพิษณุโลก ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าชายคนดังกล่าวชื่อนายสมจิตร แจ่มสว่าง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/65 ซอยพรรณเพียร หมู่ 2 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก บ้านเดิมเป็นคนพิจิตร มีบุตรชายคนโตทำงานอยู่องค์การโทรศัพท์ และบุตรสาวขายปลาหมึกแห้งบดอยู่ปากซอยถนนบรมไตรโลกนารถ 29 และยอมรับสารภาพว่าไม่ได้เป็นตำรวจแต่อย่างใด
พล.ต.ต.อดิศักดิ์ ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก กล่าวต่อว่า หลังพูดคุยกับนายสมจิตรทราบว่า เรื่องนี้เริ่มจากมีนักข่าวท้องถิ่นรายหนึ่งไปทำข่าวและขอสัมภาษณ์ ด้วยความที่เคยมีลูกพี่ลูกน้องเป็นตำรวจยศ ร.ต.อ. และเป็นทหารอีกคนซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้นายสมจิตรใฝ่ฝันอยากจะเป็นตำรวจ เลยบอกว่าเป็นตำรวจกองปราบฯปลอมตัวมาขายปลาหมึกแห้งบดเพื่อหาข่าว และได้ความดีความชอบได้เลื่อนยศเป็น พ.ต.อ. ไม่ได้คิดว่าจะมีผลเสียต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลย เป็นแค่พร่ำเพ้อไปตามความฝันของตนเท่านั้น
พล.ต.ต.อดิศักดิ์กล่าวต่ออีกว่า นายสมจิตร เรียนจบแค่ชั้น ป.4 เป็นคน จ.พิจิตร ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ จ.พิษณุโลก ประกอบอาชีพขายปลาหมึกแห้งบดมาโดยตลอด พอนักข่าวท้องถิ่นคนดังกล่าวนำคำให้สัมภาษณ์ไปลงในยูทูป ส่งผลให้ยอดขายปลาหมึกแห้งบดดีขึ้น จากเดิมขายได้วันละประมาณ 1,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 บาททันที จากนั้นมีนักข่าวหลายสำนักเริ่มเข้ามาทำข่าว จึงให้สัมภาษณ์เหมือนเดิมตามที่เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวคนแรก หวังว่าจะทำให้ยอดขายปลาหมึกเพิ่มขึ้นไปอีก ไม่คิดว่าจะส่งผลเสียต่อกองปราบปรามแต่อย่างใด
ผบก.ภ.จ.พิษณุโลกกล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อนายสมจิตรให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกฎหมายตามมาตรา 367 ที่ให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานตำรวจโดยมิได้ปิดบังซ่อนเร้นหรือบิดเบือน คงจะเอาผิดอะไรไม่ได้ จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนว่า การกระทำเช่นนี้จะทำให้เกิดความเสียหาย ทำให้ประชาชนที่เสพข่าวเกิดความสับสนได้ ขอให้หยุดการกระทำตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตัวนายสมจิตรรับปากกับตำรวจว่าจะปฏิบัติตามโดยจะไม่ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวหรือพูดกับบุคคลอื่นว่าเป็นตำรวจอีกต่อไปแล้ว และขอโทษประชาชนทุกคนที่ทำให้หลงเชื่อและขอโทษสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รรท.ผบก.ป.กล่าวว่า ได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว ประสานไปที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.พิษณุโลก ตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้นทราบว่าผู้ที่แอบอ้างชื่อนายสมจิตร แจ่มสว่าง อายุ 63 ปี เวลาขายปลาหมึกแห้งบด จะชอบใส่เสื้อยืดสีขาวคอกลม รองเท้าแคชชูขัดมัน ใครถามจะบอกว่า เคยเป็นอดีตตำรวจกองปราบมาสืบราชการลับ เมื่อตำรวจไปสอบถามข้อเท็จจริง นายสมจิตรกล่าววกไปวนมา บอกว่าตัวเองเป็นตำรวจ จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน แต่จำรุ่นที่เรียนไม่ได้เพราะจบมานานมากแล้ว แต่เมื่อถูกตำรวจคาดคั้นหนักเข้า จึงยอมรับว่า ไม่ได้เป็นตำรวจ ทั้งนี้ จากการรายงานของตำรวจที่ไปตรวจสอบได้สอบถามบรรดาเพื่อนบ้านถึงพฤติกรรมของนายสมจิตรต่างให้การเป็นเสียงเดียวกันว่า นายสมจิตรชอบคุยโอ้อวดชาวบ้านแถวนั้นรู้ดี ขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวมีเจตนา หรือวัตถุประสงค์ต้องการอะไร เช่น ทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อเพื่อให้ขายของดีขึ้นหรือไม่ เป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลเอง หรือมีใครร่วมเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ก่อนจะพิจารณาความผิด ในส่วนนี้จะประสานไปยังพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ตรวจสอบดูว่าใครไปขอสัมภาษณ์หรือตัวของนายสมจิตรให้สัมภาษณ์เอง แล้วข้อความดังกล่าวออกมาสู่โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ยังไง