สั่นสะท้านวงการแม่พิมพ์ของชาติ หลังเกิดภาพที่ควรจะลับ(เฉพาะ)คนรู้ใจ แต่กลายกลับมาเป็น (ไม่ลับ) แถมถูกสรรสร้างสตอรี่ผูกโยงให้ไปพาดพิงกับโรงเรียนชื่อดังระดับประเทศ จนทำให้สังคมตั้งคำถามตามมามากมายว่า “มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”...
ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร? แฟนๆไทยรัฐออนไลน์ทุกท่าน จะได้รับความกระจ่างให้สิ้นข้อสงสัย จากพวกเรา ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ในวันนี้
เพราะผู้ที่เราเชื้อเชิญ ให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด คือ ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง นั่นก็คือ...
นายวิฑูรย์ วงศ์อิน ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบ ซึ่งให้สัมภาษณ์พิเศษเปิดใจ กับ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เพียงสื่อเดียว ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด....
...
ข้อเท็จจริงของเรื่องทั้งหมด คือ….
เมื่อได้ยินคำถามของเรา ผอ.โรงเรียนสวนกุหลาบ ทอดถอนใจ ก่อนเริ่มต้นประโยคแรก ในการให้สัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้ กับ ทีมข่าวฯ ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า....”ครูหนุ่มที่ก่อเรื่องอื้อฉาวในครั้งนี้ เป็นครู ของ เราจริง! …”
หากแต่.....?
ฤทธิ์แค้นคู่ขา! ถูกตีจาก ปล่อยข้อมูลฉาว หวังเอาคืน
“แต่เมื่อได้สอบถาม จากปากเอากับครูหนุ่มคนนี้โดยตรง จึงทำให้ทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่า.......”
เรื่องอื้อฉาวจนสะท้านโลกโซเชียล และยังสั่นสะเทือนวงการแม่พิมพ์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์……เบื้องหลังการดำเนินการปล่อยข้อมูลออกมาทั้งหมดนี้
เป็นฝีมือของแฟนหนุ่มคู่ขาครูอื้อฉาวรายนี้ ที่เกิดความคับแค้นใจ หลังกำลังจะถูกอดีตคน(เคย)รัก คิดตีจาก....
การันตี ภาพอื้อฉาว ตบแต่งรูป ไม่ใช่นักเรียนสวนกุหลาบ แม้แต่คนเดียว!
โดนผูกโยงสร้างเรื่อง มีนักเรียนตกเป็นเหยื่อ จริงหรือไม่?
มาถึงคำถามนี้...ผอ.วิฑูรย์ กล่าวยืนยันด้วยเสียงดังฟังชัดทันทีทันใดว่า! …สำหรับภาพอื้อฉาว ที่กำลังแพร่สะพัดในโลกโชเชียลมีเดีย นั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีนักเรียนของเรา เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่รายเดียว!
เพราะ…ครูฉาวรายนี้ รับสารภาพแล้วว่า รูปส่วนใหญ่ เป็นรูปของตนเองกับคู่ขา ที่ถ่ายไว้โทรศัพท์มือถือในช่วงที่กำลังรักกัน ขณะที่อีกส่วนหนึ่ง ผู้อยู่เบื้องหลังการแฉครั้งนี้ นำรูปจากแหล่งอื่นๆ มาทำการตัดต่อผสมปนเปกันไปมา เพื่อหวังสร้างกระแส ว่า มีเด็กหลายคนต้องตกเป็นเหยื่อ
โดยเป้าประสงค์สำคัญสำหรับการลงมือในครั้งนี้ ก็คือ การทำลายชื่อเสียงของครูคู่ขา ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะคับแค้นใจ ที่ถูกหักหลังความรักที่เจ้าตัวทุ่มเทไปให้ โดยคำให้การทั้งหมดนี้ ของครูหนุ่ม จะไปปรากฏในรายงานผลการสอบสวน ของ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแน่นอน
“ขอยืนยันเอาไว้ตรงนี้ เลยว่า ทั้งผลการสอบสวนและบทพิจารณาโทษ จะต้องจบและมีคำตอบให้กับสังคม ภายในวันจันทร์ ที่ 13 มิ.ย.2559 นี้ เพราะฉะนั้น ทุกฝ่ายขอให้สบายใจได้!” ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง กล่าวอย่างหนักแน่น
...
บทสรุปโทษ ครูฉาว....
ผอ.วิฑูรย์ ตอบทีมข่าวฯ ในประเด็นนี้ว่า …สำหรับบทลงโทษ ครูหนุ่มรายนี้.... เบื้องต้น เป็นโทษหนักแน่นอน! ซึ่งหนักที่สุด ก็ควร จะถูกไล่ออก เพราะไม่ว่าจะมองในมุมใด ก็เข้าข่าย ประพฤติผิดวินัยร้ายแรง ผิดจรรยาบรรณของความเป็นครู ซึ่งโทษก็คือ ให้ออก หรือ ไล่ออก อยู่แล้ว
ที่ไปที่มา … เปิดประวัติทำงานครูหนุ่มสุดฉาว
ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบ ถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนตอบทีมข่าวฯ ว่า ครูหนุ่มรายนี้ มาสอนที่โรงเรียนได้ร่วม 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมา มีความตั้งอกตั้งใจทำงานให้กับโรงเรียนด้วยดีมาโดยตลอด พูดได้เลยว่า มีความขยันมากกว่าครูใหม่ๆ ที่เข้ามาทำงานพร้อมกันหลายคนเสียด้วยซ้ำ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีความพฤติกรรมใดๆ ที่จะส่อไปในทางที่ไม่ดีเลยด้วยซ้ำไปด้วย
ความรู้สึกของ ผู้ปกครอง ครูและศิษย์เก่า ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น?
ผอ.วิฑูรย์ ตอบคำถามนี้ของเราว่า...โรงเรียนสวนกุหลาบของเรา ถือเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมาช้านานแล้ว หลังเกิดเรื่องนี้ขึ้น บรรดา ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ รวมถึงลูกศิษย์ ทั้งเก่าและใหม่ทุกคน ล้วนแล้วแต่เกิดความไม่สบายใจ...
หลายท่านเองถึงกับไม่พอใจในเรื่องที่เกิดขึ้น อดรนทนไม่ได้ ต้องเดินทางมาสอบถามข้อเท็จจริงด้วยตัวเองถึงที่โรงเรียนก็มี ซึ่งก็เข้าใจทุกท่านดีว่า มีความหวังดี และต้องการปกป้องสถาบันอันมีชื่อเสียงนี้ ไม่ให้เกิดความมัวหมองจากน้ำมือคนเพียงคนเดียว แต่อยากบอกทุกท่านว่า
"ทุกอย่างจะต้องจบและมีคำตอบแน่นอน ในวันที่ 13 มิ.ย.59 นี้ เพราะฉะนั้น ขอให้ทุกท่านสบายใจได้" ผอ.โรงเรียนสวนกุหลาบ ย้ำอีกครั้งกับทีมข่าวฯ
...
นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบ วอน อย่านำสถาบันไปผูกโยงพฤติกรรมคนไม่ดี
ด้าน นายวิรัช ชาญพานิชย์ นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบ หรือ บิ๊กก๊อง ที่แฟนๆฟุตบอลไทย รู้จักกันดี กล่าวเปิดใจกับ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า สำหรับเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น
“ขอร้องว่า อย่านำเอาสถาบันการศึกษาไปผูกโยงกับความผิดเฉพาะบุคคล เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ในสังคม ย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี เพราะฉะนั้น เมื่อคนไม่ดีไปกระทำอะไรที่มันไม่ถูกศีลธรรม ก็ต้องไปชดใช้กรรมในสิ่งที่ตัวเองก่อเอาไว้ เป็นธรรมดา” บิ๊กก๊อง กล่าวอย่างจริงจัง
โรงเรียนสวนกุหลาบ ก่อตั้งมานานกว่า 137 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ที่ผ่านมาก็สร้างแต่คนดีๆ มารับใช้สังคมตลอด
เรื่องที่เกิดขึ้น มันไม่ต่างจาก สวนดอกกุหลาบที่กำลังบานสะพรั่งสวยงาม แต่บังเอิญมีแมลงร้ายโฉบเข้ามาทำลายให้เสียหายไปบ้าง แต่หลังจากใช้ยาฆ่าแมลงกำจัดเจ้าแมลงร้าย นั่นออกไปได้แล้ว สวนดอกกุหลาบ ก็กลับมาสวยงามดั่งเดิม
...
ความเชื่อมั่นต่อสวนกุหลาบ ไม่มีวันจางหาย เพียงเพราะคนเพียงคนเดียว
"หลังจากเกิดเรื่องขึ้น พวกเราก็มานั่งคุยกัน แล้วก็บอกกันว่า เฮ้ยพวกเราต้องตั้งสติกันให้ดีๆ นะ โรงเรียนเราไม่ได้สนับสนุนให้ใคร มาทำพฤติกรรมแบบนี้นะ เหมือนในสังคม ที่ก็ย่อมมีคนเลว มาปะปนได้เสมอ เพราะฉะนั้น อย่าไปเหมารวม และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องทำให้เป็นเครื่องเตือนใจว่า ต่อจากนี้ไป พวกเราก็ต้องร่วมแรงร่วมใจกันสอดส่องดูแล ให้มีแต่คนดีๆ เข้ามาทำงาน เพื่อทำให้องค์กรมีความเจริญก้าวหน้า และส่วนตัวมั่นใจว่า บรรดาผู้ปกครองนักเรียนทุกท่าน จะมีความเชื่อมั่นต่อโรงเรียนสวนกุหลาบไม่เปลี่ยนแปลง"
“คนแค่คนเดียว ไม่มีทางทำให้สถาบัน ที่ถูกก่อตั้งมานานถึง 137 ปี มีนายกรัฐมนตรี มากที่สุดในประเทศไทย เกิดความเสื่อมเสียได้แน่นอน” นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบ กล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
ขอบคุณภาพประกอบจาก ชุมนุมถ่ายภาพ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
- สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราวหรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่ reporter.thairath@gmail.com หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ