สุดยอด ตร.กำแพงเพชร ลูกกตัญญูช่วยพ่อแม่ขายซาลาเปา ตั้งแต่ยังเรียน ม.3 จนเรียนจบเป็นนายสิบตำรวจก็ยังมาขายต่อ บอกว่าชอบ ไม่อายใคร เป็นอาชีพสุจริตช่วยพ่อแม่ทำงาน มีโอกาสพบปะผู้คน แถมมีรายได้ดี
วันที่ 29 พ.ค. ที่บริเวณลานโพธิ์ หน้าร้านเซเว่นฯ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร มีเด็กหนุ่มขับขี่รถจักรยานแบบพ่วงข้าง บนรถพ่วงมีตู้ใส่ซาลาเปาสีเหลืองและขนมจีบ เรียงรายจอดขายอยู่ในบริเวณดังกล่าว มีประชาชนพากันมาซื้อไม่ขาดสาย โดยเด็กหนุ่มที่ขายซาลาเปาคนนี้เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของชาวกำแพงเพชรมานานหลายปีแล้ว เพราะขายมาตั้งแต่ยังแต่งตัวชุดนักเรียนระดับประถมจนกลายเป็นหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดี
จากการสอบถามทราบชื่อ ส.ต.ต.ราชันย์ พรพุทธเจริญชัย อายุ 22 ปี เป็น ผบ.หมู่งาน ป.สภ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ส.ต.ต.ราชันย์ เปิดเผยว่า เดิมเป็นคน จ.ลำปาง พ่อแม่มีอาชีพขายซาลาเปา ต่อมาก็ย้ายที่อยู่ไปตามจังหวัดต่างๆ เช่น ตาก สุโขทัย และพิษณุโลก จนเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ย้ายมาอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร โดยช่วงนั้นตนยังเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3
ในช่วงที่ย้ายมาอยู่กำแพงเพชร พ่อแม่ก็ยังทำซาลาเปาออกขาย โดยตนจะมาช่วยหลังจากโรงเรียนเลิกแล้ว และเสาร์-อาทิตย์ ก็จะออกมาขายเอง โดยเริ่มขายตั้งแต่ประมาณบ่าย 3 จนถึง 2 ทุ่ม มีรายได้วันละพันกว่าบาท ซาลาเปาที่ขายมีแบบไส้หมูแดง และไส้ถั่วแดง ส่วนขนมจีบไส้หมูสับปนกับเนื้อปลาสับ
...
แต่หลังจากที่เรียนจบ ม.6 แล้ว ก็ไปเข้าเรียนโรงเรียนตำรวจ เรียน 1 ปี ก็จบสำเร็จออกมาติดยศสิบตำรวจตรี ถูกส่งมาประจำที่สถานีตำรวจภูธร อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร จนถึงขณะนี้ 2 ปีเศษแล้ว และถึงแม้ว่าจะเป็นตำรวจมีเงินเดือนก็ตาม ก็ยังมาขายซาลาเปาในวันที่ไม่ต้องอยู่เวร เพราะถ้าตนไม่มาขาย แม่ซึ่งก็มีอายุแล้วต้องออกมาขายเอง เพราะพ่อกับแม่ไม่ยอมเลิกอาชีพนี้ แม่กับพ่อเคยบอกว่าให้ตนเลิกขายเพราะเป็นตำรวจแล้วเกรงจะอายคน แม่กับพ่อจะไปขายเอง ตนไม่อยากให้แม่ลำบาก จึงออกมาขายเองให้พ่อแม่อยู่บ้านทำเพียงอย่างเดียว ส่วนครอบครัวทั้งหมดมี 4 คน ประกอบด้วยพ่อแม่ พี่ชาย ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันพาณิชย์นาวี ซึ่งเป็นสถาบันเอกชน และตนเป็นลูกชายคนเล็ก
สิบตำรวจตรี ราชันย์ เปิดเผยว่า มีคนถามประจำว่า เป็นตำรวจทำไมยังมาขายซาลาเปา ไม่อายคนอื่นเหรอ ในเรื่องนี้อาชีพขายซาลาเปาเป็นอาชีพหลักของครอบครัวมานานแล้ว ตนไม่รู้ว่าทำไมจะต้องอายเพราะเป็นอาชีพสุจริต ประกอบกับตนชอบค้าขาย ได้เงินทุกวัน ได้มีโอกาสพบปะผู้คนมากหน้าหลายตาสนุกดี ต่อมาเมื่อคนรู้ว่า ตนเป็นตำรวจก็มาถ่ายรูปลงในโซเชียล ทำให้คนรู้จักมากขึ้น จากเดิมที่เคยขายได้วันละพันกว่าบาท ปัจจุบันขายได้มากกว่า 2,500 บาทต่อวันแล้ว จึงเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าเสียหายหรือไร้เกียรติ