เผยยอดอุบัติเหตุรับสงกรานต์ผ่านมา 6 วัน ตายรวม 397 บาดเจ็บกว่า 3พันคน เฉพาะวันที่ 6 ตายเพิ่มอีก 59 ขณะที่ จ.นครราชสีมา ได้แชมป์ตายสะสมมากสุดอยู่ที่ 18 ราย

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 59 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงสรุปผลดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของเทศกาล เกิดอุบัติเหตุ 308 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 59 ราย ผู้บาดเจ็บ 380 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 31.01 ยานพาหนะเกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 80.88 โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 22 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา และพะเยา จังหวัดละ 4 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 22 คน

ทั้งนี้ สรุปยอดรวมอุบัติเหตุทางถนนตลอด 6 วัน ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรวม 3,104 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 397 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,271 ราย โดยจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 5 จังหวัด ได้แก่ ตราด แพร่ ยะลา ระนอง และหนองบัวลำภู เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 158 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดได้แก่ นครราชสีมา 18 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 166 คน

ด้าน นายอาคม กล่าวว่า สำหรับการติดตั้งจีพีเอสรถโดยสารสาธารณะนั้น รถบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) จะติดตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ และใบขับขี่จะเชื่อมโยงระบบจีพีเอส เมื่อสตาร์ตรถข้อมูลจะส่งไปที่กรมขนส่งทางบก แต่ก่อนสตาร์ตพนักงานขับรถต้องแนะนำตัวเอง ผู้ช่วย ระบุจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด พักรถจุดใดบ้าง และประกาศให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดด้วย ซึ่งในอนาคตจะมีการติดตั้งจีพีเอสในรถส่วนบุคคลด้วย สถิติการเกิดอุบัติเหตุที่ยังสูงอยู่นั้นเกิดจากพฤติกรรมการขับรถ ซึ่งในช่วงแรกของเทศกาล รถประเภท รถปิกอัพ รถตู้ ค่อนข้างเยอะ แต่คาดว่าเมื่อหมดเทศกาล สถิติการเกิดอุบัติเหตุของโครงข่ายกระทรวงคมนาคมอาจจะต่ำกว่าปีที่แล้ว

...

อย่างไรก็ตาม จำนวนรถโดยสารสาธารณะมีปริมาณเพียงพอ แต่จากการสำรวจพบว่าจำนวนผู้โดยสารต่ำกว่าประมาณการ 6.8 เปอร์เซ็นต์ เพราะใช้รถส่วนตัวมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง และมาตรการของรัฐลดหย่อนภาษี ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 3.7 เปอร์เซ็นต์

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุในช่วงสองวันสุดท้ายของการเดินทาง พบว่า อุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับมีแนวโน้มลดลง ในขณะที่อุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและการตัดหน้ากระชั้นชิดเพิ่มขึ้น ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้กำชับจังหวัดเพิ่มความถี่ในการจัดตั้งจุดตรวจในเส้นทางสายหลัก เพื่อชะลอความเร็วและป้องกันการแซงในระยะกระชั้นชิด โดยเฉพาะเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว พร้อมเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจ เพื่อให้ผู้ขับขี่เกิดความตื่นตัว และป้องกันการหลับใน