ไฟไหม้ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปาน ลามแล้ว 10 ไร่ ยังดับไม่ได้ ปะทุอีกหลายจุด เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าแพร่เพิ่มกำลังเข้าควบคุม ส่วนฝุ่นอะลองวันนี้สูงสุดในภาคเหนือ ด้าน ผอ.สบอ.ที่13 แพร่ สั่งชาวบ้านห้ามเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด 2 เดือน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 มี.ค. 59 เกิดไฟไหม้ป่าบริเวณบ้านปางเคาะ หมู่ที่ 3 บ้านปากปาน หมู่ที่ 9 ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ กำลังเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าแพร่ สบอ.ที่ 13 (แพร่) นายสถิต เคมาชัย หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแพร่ และประสานงาน นายสง่า สมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปางเคาะ ม.3 ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ร่วมกับหน่วยไฟป่าช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ตรวจสอบพื้นที่พบว่าถูกไฟไหม้เสียหายประมาณ 10 ไร่ โดยอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปาน ขณะที่อีกหลายพื้นที่ก็เกิดไฟไหม้ป่าที่เกิดจากการเผาป่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มกำลังออกตระเวนและจัดชุดประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านเผาป่า

นายสุรชัย อจลบุญ ผอ.สบอ.ที่ 13 แพร่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านสกัดตามจุดที่มีชาวบ้านเข้าป่าโดยอ้างว่าทำไร่หรือหาของป่า เพราะเมื่อเข้าไปก็จะเผาเศษวัชพืชจนทำให้เกิดไฟไหม้ป่า จึงห้ามเข้าพื้นที่อย่างเด็ดขาดในช่วง 2 เดือนนี้

...

สำหรับค่าของหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ จ.แพร่ วันนี้ได้เพิ่มสูงขึ้น หมอกควันปกคลุมไปทั่วบริเวณทั้งจังหวัด ตรวจสอบปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เพิ่มสูงถึง 167 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นับว่าสูงที่สุดในภาคเหนือขณะนี้ ซึ่งสาเหตุมาจากการเผาป่าในรอบ จ.แพร่ จนเกิดฮอตสปอตขึ้นทั่วบริเวณ แต่คาดว่าในวันพรุ่งนี้ค่าฝุ่นละอองจะลดลง

ด้าน นพ.บุญทอง ทศเทพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ได้ออกประกาศเตือนและออกหน่วยประชาสัมพันธ์ให้ป้องกันและระวังการรับอากาศหายใจในช่วงนี้ และหากประชาชนที่ต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการสูดดมฝุ่นละออง อีกทั้งสามารถขอได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน รวมทั้งที่โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง และหากเกิดอาการผิดปกติ เช่น ไอ จาม หายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ทันที.