เที่ยวอุทยาน รับปีใหม่ จองคิวแน่น

แนะกระจาย ไปที่อื่นบ้าง นครบาลเข้ม ตร.งดลา6วัน

คนแห่สัมผัสอากาศหนาวพร้อมชื่นชมธรรมชาติแน่นทุกอุทยานฯ ทั่วประเทศ รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ เผยอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เก็บรายได้จากการท่องเที่ยวพุ่งพรวด แค่ 2 เดือน ต.ค.-พ.ย.โกยกว่า 50 ล้านบาทเศษ เฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาทมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ถึง 40 กว่าล้านบาท ส่วนอุทยานฯชื่อดังภาคเหนือ-อีสาน ยัง เป็นที่นิยม คนจองคิวเต็มเหยียด ทั้ง ภูกระดึง-ภูเรือ-เขาใหญ่-ผาแต้ม-ดอยอินทนนท์ ฯลฯ วอนกระจายไปที่อื่นบ้าง สวยงามไม่แพ้กัน และพร้อมคืนความสุขให้คนไทยเปิดอุทยานฯ ให้เข้าฟรี วันที่ 31 ธ.ค. 2558-1 ม.ค. 2559 พร้อมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 58 แห่ง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 67 แห่ง ด้านนครบาลห้ามตำรวจลาโดยไม่มีเหตุจำเป็น ช่วง 6 วัน เทศกาลปีใหม่

ใกล้ถึงช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ 2559 ปรากฏว่าคนไทยเริ่มแห่เที่ยวสัมผัสอากาศหนาวในอุทยานแห่งชาติกันอย่างหนาตา โดยเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีและรักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่วันที่ 30 ธ.ค.2558-4 ม.ค. 2559 มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเข้าไปใช้บริการในเขตอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ 147 แห่ง เพื่อมาสัมผัสอากาศหนาว โดยอุทยานฯ ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ที่ได้รับความนิยมมีนักท่องเที่ยวไปพักแรมเป็นจำนวนมาก ได้แก่ อุทยานฯภูกระดึง อุทยานฯภูเรือ จ.เลย อุทยานฯ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา อุทยานฯดอยอินทนนท์ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย อุทยานฯห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ อุทยานฯภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก อุทยานฯ เขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ อุทยานฯ ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี เป็นต้น ซึ่งบ้านพักในอุทยานฯเหล่านี้ ถูกจองเต็มยาวไปถึงต้นปี 2559 แล้ว จะมีเหลือก็เพียงลานกางเต็นท์

นายธัญญากล่าวด้วยว่า หากลานเต็มแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวในอุทยานฯใกล้เคียงที่มีความสวยงามและมีอากาศหนาวเย็นไม่แพ้อุทยานฯ ยอดนิยม อาทิ อุทยานฯ เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จ.ราชบุรี อุทยานฯ ลำคลองงู อุทยานฯ ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อุทยานฯน้ำตกสามหลั่น จ.สระบุรี อุทยานฯ เขาสิบห้าชั้น จ.จันทบุรี อุทยานฯ ต้นสักใหญ่ จ.อุตรดิตถ์ อุทยานฯทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก อุทยานฯแม่จริม อุทยานฯดอยภูคา อุทยานฯขุนน่าน จ.น่าน อุทยานฯคลองลาน อุทยานฯคลองวังเจ้า จ.กำแพงเพชร อุทยานฯ ภูจอง-นายอย จ.อุบลราชธานี อุทยานฯภูสระดอกบัว จ.มุกดาหาร วนอุทยานภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย อุทยานฯศรีลานนา จ.เชียงใหม่ อุทยานฯแม่เมย จ.ตาก เป็นต้น โดยสามารถตรวจสอบและจองบ้านพักแบบออนไลน์ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.dnp.go.th  ตลอด 24 ชั่วโมง หรือโทรศัพท์ 0-2562-0760 ในเวลาทำการหรือสายด่วน 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวต่อว่า การท่องเที่ยวในอุทยานฯ ตั้งแต่ปลายปี 2558 นอกจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ที่ภาคใต้ก็มีนักท่องเที่ยวเข้าท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมา เพียง 2 เดือนสามารถจัดเก็บเงินรายได้ถึง 50 ล้านบาทเศษ หรือเฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาทเศษ ขณะที่การจัดเก็บรายได้ในปี 2557 ในช่วงเวลาเดียวกันสามารถจัดเก็บรายได้แค่ 3-4 ล้านบาทเศษ ห่างกันถึง 45 ล้านบาท หรือถ้านับเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ห่างกันหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ คาดว่าครบ 3 เดือนถึงสิ้น ธ.ค.นี้ น่าจะมีรายได้เกิน 80 ล้านบาท ขณะที่อุทยานฯ สิมิลัน อุทยานฯ อ่าวพังงา อุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ ก็มีการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากการบริหารจัดการที่รัดกุมขึ้น ไม่ปล่อยให้มีการรั่วไหล

“ปีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานฯ จำนวนมาก กรมอุทยานฯจึงได้กำหนดมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะเข้มงวดเป็นพิเศษในเรื่องความปลอดภัย โดยมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในอุทยานฯ ทั้ง 147 แห่งทั่วประเทศพร้อมปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง เพื่อคอยรับแจ้งเหตุและแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ

โดยทุกแห่งจะมีความพร้อมด้านกำลังพล ยานพาหนะ การสื่อสารทุกชนิด อุปกรณ์เตือนภัย กู้ภัย และปฐมพยาบาลเบื้องต้น นอกจากนี้ ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯดูแลความสะอาด ที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยเฉพาะห้องน้ำ ห้องส้วมต้องสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็ต้องช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม ลดการนำขยะเข้าไปในแหล่งท่องเที่ยว ลดการทิ้งขยะ ที่สำคัญไม่ควรส่งเสียงดัง หรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่สัตว์ป่าและนักท่องเที่ยว ห้ามเก็บพืช ดอกไม้ หิน จับสัตว์และสิ่งต่างๆ ออกจากอุทยานฯ” นายธัญญากล่าวและว่าเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ประชาชน ในวันที่ 31 ธ.ค.2558 และวันที่ 1 ม.ค.2559 อุทยานฯ ทั้ง 147 แห่งจะเปิดให้เที่ยวฟรี ส่วนวันที่ 30 ธ.ค.2558-1 ม.ค.2559 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 58 แห่ง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 67 แห่ง ก็ยกเว้นค่าบริการเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมทั้งสัมผัสอากาศหนาวในช่วงฤดูหนาวนี้

ด้านนายสมหมาย กิตติยากุล รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2560 กรมอุทยานฯ ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณบูรณาการ เพื่อเสริมคุณภาพการท่องเที่ยว โดยเน้นการพัฒนาการบริการ และการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานความยั่งยืนของทรัพยากรป่าไม้ ใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ วงเงินงบประมาณ 164 ล้านบาท โดยประกอบด้วยกิจกรรมการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อันได้แก่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพัก ศาลาอเนกประสงค์ ห้องน้ำ ปรับภูมิทัศน์และเส้นทาง เป็นต้น และโครงการจัดการขยะแบบองค์รวม วงเงินงบประมาณ 17 ล้านบาท ประกอบด้วย กิจกรรมการบริหารจัดการขยะที่เกิดจากกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล 9 แห่ง ได้แก่ อุทยานฯ อ่าวพังงา อุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ อุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน อุทยานฯ ตะรุเตา อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อุทยานฯ หมู่เกาะช้าง อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อุทยานฯ หาดวนกร และอุทยานฯ หมู่เกาะอ่างทอง

สำหรับบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ของคนไทยในขณะนี้ ซึ่งเริ่มช่วง 7 วันอันตราย ในวันที่ 29 ธ.ค. 2558-4 ม.ค.2559 พบว่าถนนสายหลักที่มุ่งหน้าขึ้นเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ ถนนสายเอเชีย เช่นเดียวกับถนนพระรามสองและถนนเพชรเกษม เส้นทางลงใต้ และถนนสุขุมวิท เส้นทางสายตะวันออก มีปริมาณรถเยอะ แต่ยังพอเคลื่อนตัวกันไปได้ ทั้งนี้ พ.ต.อ.อรุณ แตงนารา รอง ผบก.ภ.จ.นครสวรรค์ แนะนำสำหรับผู้ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน เพื่อขึ้นเหนือสามารถใช้เส้นเลี่ยงเมืองนครสวรรค์หมายเลข 122 ได้ ขณะที่ถนนมิตรภาพช่วง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่กำลังปรับปรุงพื้นผิวจราจร ให้นำอุปกรณ์ก่อสร้างออกจากถนนทั้งหมดเพื่ออำนวยความสะดวกและให้เกิดความคล่องตัวในการใช้ถนนในช่วงสัปดาห์นี้ที่เป็นช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่ รวมถึงให้มีการตั้งจุดตรวจแบบบูรณาการ 89 จุด และจุดบริการประชาชน 98 จุด ตลอดเส้นทางตั้งแต่เข้าเขตจังหวัดนครราชสีมาไปจนสุดเขตจังหวัด

ขณะที่ จ.สงขลา พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.เมืองสงขลา เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวตำรวจและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ทหารเรือ เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรมและรักษาความปลอดภัย รวมถึงคอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่นี้ ด้าน พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ตม.6 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและด่าน ตม.ทุกที่ 11 หน่วยครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัด ปฏิบัติงานตรวจตราคนต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศด้วยความเข้มงวด ตรวจหนังสือ เดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนอย่างละเอียด รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการเดินทางด้วย

ช่วงสายวันเดียวกัน พ.ต.อ.พัฒนะ บูรณกลัศ ผกก.6 บก.ทล. พ.ต.ท.สุชาติ ผิวอ่อน สว.สทล.2 กอง กก.6 บก.ทล. (บุรีรัมย์) จัดเส้นทางจราจรต้อนรับการเดินทางช่วงปีใหม่ โดยตรวจสอบสภาพการจราจรที่ช่องเขาตะโก เขตรอยต่อระหว่าง อ.โนน-ดินแดง จ.บุรีรัมย์ กับ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ได้ประสานกันระหว่างตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และทางหลวงปราจีนบุรี จัดรถวิทยุรายงานสภาพการจราจรเพื่อเปิดช่องทางพิเศษสลับขึ้นลงช่องเขาตะโก กม.ที่ 76-79 เนื่องจากเป็นถนนแคบและเป็นเส้นทางขึ้นเขายาวถึง 3 กม. ถือเป็นเส้นทางสายหลักที่ประชาชนใช้ในการเดินทางอีกเส้นทางหนึ่งจาก กทม.มาสู่ประตูอีสาน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าการเดินทางจะปกติ นอกจากนี้ ด.ต.สุวิจักณ์ ศิลาสูงเนิน หน.หน่วยบริการตำรวจทางหลวงนางรอง จ.บุรีรัมย์ เผยว่า พ.ต.อ.พัฒนะสั่งการให้ตั้งจุดบริการประชาชนและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ติดป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยงการจราจรติดขัด ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง กรณีเปิด สัญญาณไฟจราจรและร่วมปฏิบัติช่วง 7 วันอันตราย พร้อมจัดห้องน้ำ ห้องพักเพื่อให้พักผ่อนก่อนเดินทางต่อ พร้อมบริการน้ำดื่ม กาแฟ อำนวยความสะดวก รถเสีย กวดขันความเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ

ต่อมาวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ลงนามหนังสือสั่งการ บช.น.ที่ 0015.112/4215 ลงวันที่ 17 ธ.ค.58 เรื่องกำชับการปฏิบัติในการลาและการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 59 เพื่อทราบและควบคุมการปฏิบัติถึง ผบก.น.1-9 ผบก.อก.บช.น. ผบก.จร. ผบก.สปพ. ผบก.อคฝ. ผบก.ประจำ บช.น. ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.2558 -3 ม.ค.2559 เป็นช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2559 ประชาชนกรุงเทพฯ จะเดินทางไปต่างจังหวัดและจัดเทศกาลในช่วงดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทำให้ บช.น.ต้องระดมกำลังปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ บช.น.ต้องเพิ่มมาตรการในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ได้ทุกระดับ ให้ดำเนินการดังนี้

1. ตำรวจทุกระดับชั้นงดการลาวันที่ 30 ธ.ค.58-4 ม.ค.59 ยกเว้นมีเหตุผลความจำเป็นอย่างแท้จริงให้อยู่ในดุลพินิจผู้บังคับบัญชาพิจารณาฯอนุญาตเป็นรายๆ ไป 2.ตำรวจระดับ ผกก.ขึ้นไป ให้ขออนุญาต ผบช.น.พิจารณาโดยตรง ระดับรอง ผกก.ลงมา ในสังกัด กก. ดส.และ ศฟร.ให้ขออนุญาต บช.น.ผ่าน รอง ผบช.น.ดูแลงานบริหาร 1 เป็นผู้พิจารณาอนุญาตเป็นรายๆ ไป 3.ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นให้ออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติตำรวจในความรับผิดชอบ เพิ่มความเข้มของการปฏิบัติในช่วงเวลาดังกล่าว และ 4.ด้านธุรการหรืออำนวยการ กรณีจัดหน้าที่เวรยามประจำสถานที่ราชการหรือเวรยามต่างๆ ให้สนับสนุนการปฏิบัติได้โดยตลอด ให้แต่ละหน่วยจัดผู้รับผิดชอบแต่ละวันช่วงวันหยุดดังกล่าว ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนรับผิดชอบ หากมีงานพิเศษเร่งด่วนให้ติดต่อและปฏิบัติงานพิเศษเร่งด่วนดังกล่าวทันที จัดรายชื่อผู้รับผิดชอบพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อได้ ไว้ที่เวรประจำสถานที่ราชการของแต่ละหน่วย ให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่เวรยามดังกล่าวอย่าให้เกิดข้อบกพร่องขึ้นได้โดยเด็ดขาด