หนุ่มใหญ่ที่ศรีสะเกษ เคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหาเลี้ยงครอบครัว แต่โชคร้ายตกนั่งร้านลงมาจนเป็นอัมพฤกษ์ ขณะที่ลูกชายคนเล็กป่วย และสติไม่สมประกอบ ภาระจึงไปตกหนักที่เมีย และลูกขายคนโต วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ...  

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.58 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 13/6 บ้านหนองเทา หมู่ 3 ต.เมืองน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หลังทราบจากนายจำรัส พวงจำปา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองเทา หมู่ 3 ต.เมืองน้อย ว่า มีลูกบ้านครอบครัวหนึ่งฐานะยากจน ซ้ำร้ายหัวหน้าครอบครัวยังประสบอุบัติเหตุขณะไปทำงานรับจ้างสร้างบ้านให้กับคนในหมู่บ้านเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นอัมพฤกษ์ แขนขาขยับไม่ได้ ช่วยตัวเองไม่ได้ ทำให้ครอบครัวซึ่งมีฐานะยากจนอยู่แล้วขาดรายได้ ไม่มีเงินใช้จ่าย ต้องลำบากมากขึ้น

เมื่อไปถึงบ้านหลังที่ได้รับแจ้ง เป็นบ้านไม้ยกสูงใต้ถุนโล่ง สภาพทรุดโทรม หลังคามุงสังกะสีและหญ้าคาบางส่วน ได้พบกับนายพันศักดิ์ นัยเนตร อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน นอนอยู่ใต้ถุนบ้าน โดยมีนายธนศักดิ์ นัยเนตร อายุ 16 ปี ลูกชายคนโตคอยเช็ดถูตัวให้พ่อ ส่วนแม่บ้าน ชื่อนางยูรนี สีคง อายุ 38 ปี ออกไปรับจ้างเกี่ยวข้าวหารายได้มาใช้จข่ายเลี้ยงดู 4 ชีวิต คือสามีที่เป็นอัมพฤกษ์ร่างกาย นายธนศักดิ์ นัยเนตร อายุ 16 ปี ลูกชายคนโต และเด็กชายธีรภัทร นัยเนตร อายุ 9 ขวบ ลูกชายคนเล็กที่สติไม่สมประกอบ และป่วยเป็นโรคลมชัก มาตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ

...

นายพันศักดิ์ นัยเนตร พ่อบ้าน กล่าวว่า บ้านที่อยู่นี้ก็เก่าแก่ผุพัง ปลูกอยู่บนที่ดินของพี่สาว ทำนาปลูกข้าวก็ทำในที่นาของพี่สาว ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนมีอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง พอมีรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2557 ได้เกิดอุบัติเหตุพลัดตกจากนั่งร้านสูงจากพื้นประมาณ 4 เมตร เพื่อนบ้านช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลกันทรารมย์ และถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อยู่โรงพยาบาลร่วม 2 เดือน แม้จะรอดชีวิตกลับมา แต่ก็เป็นอย่างที่เห็น คือเป็นอัมพฤกษ์ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำงานไม่ได้ ทำให้ครอบครัวทางบ้านขาดรายได้ ไม่มีเงินใช้จ่าย ตั้งแต่ตนประสบอุบัติเหตุ ลูกชายคนโตซึ่งเรียนจบชั้น ม.3 พอดี ต้องออกจากโรงเรียน เพราะไม่มีเงิน และต้องมาดูแลตน กับน้องชายซึ่งเป็นโรคลมชัก และสติไม่สมประกอบ

พ่อบ้านพิการ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ ครอบครัวตนลำบากมาก ภรรยากับลูกชาย ต้องผลัดกันออกไปรับจ้าง ได้ค่าจ้างได้วันละ200-250 บาท แต่รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย งานรับจ้างก็ไม่ได้มีทุกวัน ส่วนลูกชายคนเล็กต้องไปหาหมอบ่อยๆ เพราะเป็นโรคลมชัก ตอนนี้จึงเดือดร้อนมาก ขอวอนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาช่วยเหลือ

ต่อมา ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้าเยี่ยมนายพันศักดิ์ สอบถามอาการ พร้อมเก็บข้อมูล เพื่อที่จะได้ให้การช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีเงินช่วยเหลือซ่อมบ้านผู้พิการรายละ 20,000 บาท ซี่งจะช่วยเดินเรื่อง เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวของนายพันศักดิ์ต่อไป. 

สำหรับ ผู้ใจบุญที่ทราบข่าวนี้แล้ว ต้องการจะส่งความช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เลขบัญชี 016392218734 ชื่อบัญชี นางยูรนี สีคง จะเป็นบุญกุศลไม่น้อย.