ผบ.มทบ.14 พร้อมคณะลงพื้นที่เกาะสีชัง ดูปัญหาสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีเรือบรรทุกสินค้าประเภทมันสำปะหลัง ทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วเกาะ เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลเร่งแก้ไข ตาม พ.ร.บ.บริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล...

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 พ.ย. พล.ต.สิงห์โต หมีทอง ผบ.มทบ.14 นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รอง ผวจ.ชลบุรี พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ เกาะสีชัง เพื่อฟังบรรยายสรุปพร้อมนั่งเรือลงดูพื้นที่จริง พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาหลายประการที่จะต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีเรือบรรทุกสินค้าประเภทมันสำปะหลัง ที่ทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว บนฝั่งของเกาะสีชัง ส่งผลกระทบต่อประชาชน และท้องทะเล หลังจากนี้คงจะนำปัญหาต่างๆ ไปหารือ พร้อมทั้งจะผลักดันเพื่อนำไปเป็นส่วนหนึ่งในร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งด้วย

นายดำรงค์ เภตรา นายกเทศบาลตำบลเกาะสีชัง เผยว่า ที่ผ่านมาทางเทศบาลฯ ได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหา โดยตั้งเป้าใครทำให้เกิดปัญหาคนนั้นจะต้องรับผิดชอบ โดยที่ผ่านมา ได้ทำเรื่องขยายเขตรับผิดชอบชายฝั่ง ออกเทศบัญญัติเพื่อควบคุมดูแลเรือบรรทุกสินค้าที่เข้ามาจอดลอยลำในพื้นที่รอบเกาะสีชัง และสร้างปัญหาในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ทั้งขยะบนเรือ และน้ำเสียจากเรือ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเรือบรรทุกสินค้าประเภทมันสำปะหลังที่จอดขนถ่ายกันกลางทะเลได้ เนื่องจากเรื่องนี้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่แล้วคือ กรมควบคุมมลพิษสิ่งแวดล้อม และกรมเจ้าท่า ซึ่งจะต้องร่วมกันบูรณาการจากทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้มีมานานมากแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ ปัญหาอีกประการหนึ่งที่จะต้องได้รับการดูแลคือ เรื่องของอุบัติภัยทางทะเล เนื่องจากเกาะสีชังเป็นเกาะที่อยู่กลางทะเล และมีเกาะเล็กๆ ล้อมรอบอีกประมาณ 9 เกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และมีโขดหินประมาณ 80% มีท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าจากต่างประเทศ มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 5 ที่น่าสนใจหลายแห่ง

...


"พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศชาติอย่างมหาศาล แต่หากเกิดอุบัติภัยทางทะเลขึ้นมา เราไม่มีหน่วยงานโดยตรงที่รับผิดชอบในการช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้กำลังผลักดันของบประมาณจากรัฐบาลจัดตั้งศูนย์ป้องกันภัยทางทะเลขึ้น เพื่อคอยช่วยเหลือคุ้มครองนักท่องเที่ยวในขณะที่เดินทางมาเกาะสีชังให้เกิดความอุ่นใจและมั่นคง พร้อมทั้งช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลจากเรือสินค้าต่างประเทศและในประเทศ และผู้ประกอบการประมงทั่วอ่าวไทยตอนบนทั้งหมด เพราะในแต่ละปีมีความเสียหายนับพันล้านบาทจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทะเล และเพื่อความมั่นใจของนักลงทุนด้านการขนส่งทางทะเลจากต่างประเทศในเรื่องของความปลอดภัยทางทะเลในประเทศไทยด้วย" นายดำรงค์กล่าว.