ประท้วง-ยี่ปั๊ว ขายส่ง80บาท ‘ทหาร’ยื่นช่วย ยึดโควตาคืน!
กลุ่มผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยเดือดปิดถนนประท้วงยี่ปั๊วที่ขายหวยคู่ละ 80 บาท หากซื้อไปขาย นอกจากไม่ได้กำไรแล้วยังเสี่ยงถูกจับดำเนินคดี ภายหลังผู้ว่าฯยกคณะเจรจายอมเปิดถนนโดยให้ลงชื่อไว้เสนอสำนักงานสลากฯแก้ไขปัญหา พร้อมเรียกยี่ปั๊วมาเจรจาจนยอมลดราคาขาย ส่วนบอร์ดสำนักงานสลากฯเตรียมตรวจสอบกลุ่มยี่ปั๊วที่ทำธุรกิจสลากขายส่งพร้อมใช้ ม.44 ตรวจสอบภาษีย้อนหลัง
กลุ่มผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยไม่พอใจเอเย่นต์ลอตเตอรี่ขายราคาแพงฮือปิดถนนรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 4 พ.ย. ที่ตลาดนัดขายส่งลอตเตอรี่ที่ใหญ่สุดในประเทศที่ อ.วังสะพุง จ.เลย กลุ่มผู้ค้าเร่ลอตเตอรี่กว่า 2,000 คน ที่เดินทางมาซื้อลอตเตอรี่ตลาดนัดขายส่งที่เปิดตลาดเป็นวันแรกรวมตัวปิดถนนสายเลย-วังสะพุง บริเวณหน้าตลาดทั้งสองฝั่ง สาเหตุไม่พอใจที่กลุ่มเอเย่นต์ขายลอตเตอรี่ราคาคู่ละ 80 บาท จนทำให้ผู้ค้าเร่ไม่สามารถซื้อไปขายได้เพราะไม่ได้กำไร หรือถ้าขายเกินราคา 80 บาทจะถูกจับกุม
หลังการปิดถนนทำให้การจราจรทั้งขาขึ้นขาล่องกลายเป็นอัมพาตทันทีรถติดกว่า 2 กม.โดยมีกำลังตำรวจ สภ.วังสะพุง มาดูแลความเรียบร้อยและอำนวยการจราจรให้ผู้ที่ใช้เส้นทางดังกล่าวเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ต่อมาเวลา 06.30 น. นายวิสา ยัญญาลักษณ์ นอภ.วังสะพุง เดินทางมาเจรจากับผู้ชุมนุมเพื่อขอให้เปิดถนนและให้ผู้ชุมนุมยื่นหนังสือเรียกร้องความเดือดร้อนถึงนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.เลย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่รับและปิดถนนต่อไป
กระทั่งเวลา 07.30 น. นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.เลย พล.ต.ชัยวิน ผูกพัน ผบ.จทบ.28 จ.เลย พ.อ.ชาญชัย เอมอ่อน รอง ผบ.จทบ.28 และคณะเดินทางมาพบผู้ชุมนุมพร้อมขอให้ผู้ชุมนุมเข้าไปเจรจาในตลาดนัดค้าส่งลอตเตอรี่ แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมเคลื่อนย้ายไปทั้งหมดโดยแบ่งส่วนหนึ่งไปเจรจากับ ผวจ.เลย อีกส่วนหนึ่งยังคงปิดทำถนนต่อไปเพื่อรอผลการเจรจาว่าพอใจหรือไม่
...
ขณะที่นายบุญมี มะทาล่อ อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุมที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขายลอตเตอรี่ ตัวแทนกล่าวว่า ผู้ค้าเร่ลอตเตอรี่มาเดินหาซื้อลอตเตอรี่ไปขายปรากฏว่า ยี่ปั๊วซาปั้วในตลาดขายส่งปรับราคาขายคู่ละ 80 บาท เป็นราคาที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลบังคับให้ขายห้ามขายเกินกว่า ถ้าผู้ค้าเร่ซื้อในราคา 80 บาทไปขายเกินราคาต้องถูกจับ แล้วจะซื้อไปขายได้อย่างไร จึงขอวิงวอนให้สำนักงานสลากฯนำสลากมาขายให้ครบทุกคน รวมทั้งเรื่องการจองสลากของผู้ค้าเร่ที่มีการจองกับธนาคารกรุงไทย ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับโควตาสลากส่วนใหญ่เป็นยี่ปั๊วซาปั้วรายใหญ่แทบทั้งนั้น ไม่ใช่ผู้ค้าเร่หรือผู้ค้ารายย่อยทั่วไป เลยทำให้ผู้ค้าเร่ได้รับความเดือดร้อนจึงได้รวมตัวกันปิดถนนโดยไม่ได้นัดหมายเพราะต่างเดือดร้อนเหมือนกัน
จากนั้นนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.เลย กล่าวกับผู้ชุมนุมว่า การปิดถนนเป็นการผิดกฎหมาย ขอให้ผู้ชุมนุมยุติการปิดถนนและหันหน้ามาเจรจากันพร้อมประสานไปยังสำนักงานสลากฯ ให้รับทราบ ถึงปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าเร่ และขอให้เฉลี่ยสลากโควตาของ 5 เสือที่ถูกยกเลิกไปให้ช่วยผู้ค้าเร่ใน จ.เลย ขณะที่ พล.ต.ชัยวิน ผูกพัน ผบ.จทบ.28 จ.เลย กล่าวกับผู้ชุมนุมว่า ขอให้พี่น้องไปลงชื่อและแจ้งเบาะแสว่ายี่ปั๊วซาปั้วร้านไหนที่ขายส่งราคาเกินกว่า 78 บาทตามราคาที่ตกลงกันไว้ เมื่อตรวจสอบว่ามูลมีจริงจะเสนอยกเลิกโควตาทันที
ภายหลังมีการเจรจากันระหว่างยี่ปั๊วซาปั๊วกับกลุ่มผู้ค้าเร่ลอตเตอรี่โดยมี พ.อ.ชาญชัย เอมอ่อน รอง ผบ.มทบ.28 เป็นประธานการเจรจาโดยผู้ค้าเร่ต้องการให้ยี่ปั๊วซาปั้วลดราคาลอตเตอรี่ต่ำกว่า 78 บาท ผลสรุปในที่ประชุมคือถ้าเป็นหวยทั่วไปขายส่งอยู่ที่ 77-77.50 บาท หวยชุดเล็ก ราคา 78-78.50 บาท และหวยชุดใหญ่ไม่เกิน 79 บาท และจะคงราคานี้ไปจนถึงงวดวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายของโควตา 5 เสือที่สำนักงานสลากฯ ยึดโควตาคืนทำให้ผู้ค้าเร่ต่างพอใจพอใจสลายตัว
ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม กรรมการสลาก กินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการสลาก เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มผู้ค้าสลากรายย่อยปิดถนนประท้วงยี่ปั๊วขายส่งสลากแพงคู่ละ 80 บาทว่า ขณะนี้เตรียมจะเข้าไปตรวจสอบกลุ่ม ยี่ปั๊วที่ทำธุรกิจขายส่งสลากที่วังสะพุง เพราะบอร์ดสลากฯ ไม่ได้มีนโยบายในเรื่องของการค้าส่งสลากและต้องการให้ผู้ค้ารายย่อยซื้อตรงกับสำนักงานสลากฯ เท่านั้น แต่ยอมรับว่าสลากที่พิมพ์ออกมายังไม่เพียงพอ กับความต้องการของประชาชนจึงทำให้กระบวนการค้าส่งสลากฯ ของกลุ่มยี่ปั๊วยังคงอยู่ได้ต่อไป อย่างไร ก็ตาม ก่อนหน้านี้บอร์ดสลากฯ มีมาตรการเข้าไปควบคุมดูแลกลุ่มยี่ปั๊วโดยใช้มาตรา 44 ให้สามารถเข้าไปตรวจสอบภาษีย้อนหลังซึ่งกรมสรรพากรได้เรียกกลุ่มยี่ปั๊วมาตรวจสอบแล้วหลายราย
“วังสะพุงเป็นตลาดค้าส่งสลากใหญ่ สำนักงาน สลากฯไม่อยากให้มีตลาดค้าส่งแต่ตลาดค้าส่งสลากเกิดขึ้นมานานแล้วคงต้องค่อยแก้ไขกันไป ที่ผ่านมาบอร์ดฯพยายามแก้ปัญหาทั้งใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดรวมถึงเพิ่มปริมาณสลากให้มากขึ้นเพื่อให้ผู้ค้ารายย่อยสามารถซื้อสลากได้เอง ส่วนการเพิ่มสลากเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านฉบับนั้น เพิ่งจะเริ่มดำเนินการไปแค่เดือนกว่าๆเท่านั้นต้องรอให้กลไกของตลาดทำงานสักระยะหนึ่งจึงจะเห็นภาพที่แท้จริงเป็นอย่างไร” พ.ท.หนุนกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้ จะมีสลากสำหรับให้ผู้ค้ารายย่อยจองซื้อผ่านธนาคารกรุงไทยเพิ่มอีก 80,000 เล่มคู่ หรือ 16 ล้านฉบับ จากการยกเลิกสัญญาของนิติบุคคลรายใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาซึ่งจะทำให้สัดส่วนสลากของผู้ค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นจาก 26 ล้านฉบับ เป็น 44 ล้านฉบับ ตรงนี้จะทำให้รายย่อย เข้าถึงสลากได้มากขึ้น ดังนั้นอยากให้ผู้ค้ารายย่อยที่จองซื้อสลากไม่ได้ ใจเย็นๆ และขอให้รออีกนิด
...
พ.ท.หนุน กล่าวถึงกรณีการจองซื้อสลากรายย่อยครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ยอดจองซื้อสลากหมดภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที ทำลายสถิติใน 2 ครั้งที่ผ่านมาว่า จากการจองซื้อล่าสุดพบผู้ค้า ส่วนใหญ่สั่งซื้อตรงและจองซื้อจำนวน 15 เล่มคู่ถึง 60% แตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา ที่ผู้ค้าส่วนใหญ่สั่งจองซื้อและซื้อตรงคนละ 5 เล่มคู่ ในสัดส่วน 50% ทำให้เห็นว่าผู้ที่จองซื้อจำนวนสูงสุด 15 เล่มมีมากขึ้น ปริมาณสลากที่เตรียมไว้ 29.9 ล้านฉบับ จึงหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นกำลังพิจารณาว่าอาจจะปรับจำนวนเล่มจองซื้อสูงสุดลง จากที่กำหนดไว้ 15 เล่มได้หรือไม่ เพื่อให้สลากถึงกระจายให้มากขึ้น โดย จะขอดูผลดีผลเสียก่อนที่จะสรุปและประกาศออกมา
“เท่าที่ดูข้อมูลผู้ค้าสลากซื้อตรงและจองซื้อผ่านธนาคารกรุงไทย ส่วนใหญ่เป็นรายย่อย และกระจายทั่วประเทศ โดยในจังหวัดเลยที่มีผู้มาลงทะเบียนไว้ 10,000 ราย มีผู้ได้สลากไปเพียง 1,000 ราย ถือว่าไม่มาก ส่วนกรณีที่กังวลว่าจะมียี่ปั๊วรายใหญ่เกณฑ์คนมาจองซื้อนั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ ทำได้แต่ยากที่ยี่ปั๊วจะไปรวบรวมสลากให้ไว้ในมือ เพราะต้องใช้คนจำนวนมากในการซื้อตรงและจองซื้อ”
สำหรับความคืบหน้าในการตัดสิทธิ์ผู้ค้ารายย่อยที่ขายเกินราคายืนยันว่า ทำอย่างแน่นอน และกำลังศึกษาผลดีผลเสียการตัดสิทธิ์ทั้งครอบครัวว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ที่จะไปดำเนินการกับคนที่ไม่ได้ทำผิดโดยจะมีการเสนอบอร์ดให้พิจารณาภายในเดือน พ.ย.นี้ ส่วนผลการตรวจสอบผู้ใช้หมายเลขโทรศัพท์เดียวกันกว่า 10 ราย มาจองซื้อสลากฯ ก่อนหน้านี้ พบว่าเป็นผู้ค้ารายย่อย ที่มีแผงขายจริง และใช้คนในครอบครัวมาซื้อ ดังนั้นถือว่าไม่ได้ทำผิด
วันเดียวกันที่ศูนย์บริการประชาชน (สำนักงาน ก.พ.) เครือข่ายคนพิการผู้เดือดร้อนเรื่องเงินประกันสลาก นำโดยนายเดชา ปะทิเก ประธานเครือข่ายฯ และสมาชิกเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ผ่าน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกฯ โดยนายเดชากล่าวว่า จากประกาศของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ให้วางเงินมัดจำ 100 เปอร์เซ็นต์ ในการจองซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลภายในวันที่ 6-10 พ.ย.นี้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินไปวางมัดจำและจะต้องถูกตัดสิทธิ์ไป ดังนั้นจึงขอให้นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งมาตรา 44 ชะลอประกาศของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกไปเสียก่อน
...